โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

ไม่อยากเสี่ยงต้องแชร์! 8 วิธีป้องกัน โรคไวรัสตับอักเสบ บี

MThai.com - Health

เผยแพร่ 21 ก.พ. 2561 เวลา 02.52 น.
ไม่อยากเสี่ยงต้องแชร์! 8 วิธีป้องกัน โรคไวรัสตับอักเสบ บี
โรคไวรัสตับอักเสบ บี เป็นการอักเสบของตับที่เกิดจากไวรัสตับอักเสบ บี โดยเชื้อไวรัสจะเข้าสู่เซลล์ตับ ทำให้ตับอักเสบ จนทำให้เป็นตับแข็งและมะเร็

โรคไวรัสตับอักเสบ บี (Hepatitis B) เป็นการอักเสบของตับซึ่งเกิดจากไวรัสตับอักเสบ บี โดยเชื้อไวรัสจะบุกรุกสู่เซลล์ตับ และก่อให้เกิดการอักเสบขึ้น ในบางกรณีผู้ติดเชื้ออาจไม่แสดงอาการ ทำให้ไม่ทราบว่าตนเองมีเชื้ออยู่ในร่างกาย แต่ตับมีการอักเสบต่อเนื่อง ทำให้เป็นตับแข็งและมะเร็งตับในที่สุด

ไวรัสตับอักเสบบี คนไทยติดเชื้อไวรัสชนิดนี้มากกว่า 3 ล้านคน

การติดต่อของเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี

  • มีเพศสัมพันธ์กับคนที่มีเชื้อโดยไม่ได้สวมถุงยาง
  • ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน
  • ใช้เข็มสักตามตัวหรือสีที่ใช้สักตามตัวร่วมกัน และการเจาะหู
  • แม่ที่มีเชื้อสามารถติดต่อไปยังลูกได้ขณะคลอด
  • บุคลากรทางการแพทย์ที่ถูกเข็มหรือสิ่งมีคมที่ติดเชื้อระหว่างปฏิบัติงาน
  • โดยการสัมผัสกับ เลือด น้ำเลือด น้ำคัดหลั่ง โดยผ่านเข้าทางบาดแผล

อาการของผู้ป่วยโรคไวรัสตับอักเสบ บี

อาการของผู้ป่วยโรคไวรัสตับอักเสบ บี จะเกิดหลังได้รับเชื้อประมาณ 45 – 90 วัน บางรายอาจจะนานถึง 180 วัน ผู้ป่วยที่เป็นแบบเฉียบพลันจะมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ปวดตามตัว มีไข้ แน่นท้อง ถ่ายเหลว เป็นอยู่ 4 – 15 วัน หลังจากนั้นจะมีตัวเหลือง  ตาเหลือง ปัสสาวะสีเข้ม อาการตัวเหลืองตาเหลืองจะหายไปภายใน 1 – 4 สัปดาห์ บางรายอาจเป็นนานถึง 6 สัปดาห์ จึงสามารถทำงานได้ปกติ สำหรับเด็กที่ติดเชื้อตั้งแต่แรกคลอด อาจไม่มีอาการ

การรักษาโรคไวรัสตับอักเสบ บี

ส่วนใหญ่หายเอง แต่จะมีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่กลายเป็นโรคตับอักเสบเรื้อรัง ซึ่งต้องรักษาโดยการให้ยา interferon หรือ lamivudine และควรอยู่ในความดูแลของแพทย์

การป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบ บี

โรคไวรัสตับอักเสบ บี สามารถป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ บี หากติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี ควรขอคำแนะนำจากแพทย์ในการดูแลตัวเอง และต้องคำนึงถึงบุคคลใกล้ชิดด้วย เพราะอาจนำเชื้อไปสู่คนใกล้ชิด วิธีการปฏิบัติตัวหากมีเชื้ออยู่ในร่างกายคือ

  • รับประทานยาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
  • รับการตรวจเลือดเพื่อติดตามอาการ ตามแพทย์แนะนำ
  • บอกให้คนใกล้ชิดทราบ หากคนใกล้ชิดไม่มีภูมิคุ้มกันอาจพิจารณาฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันไวรัสตับอักเสบบี
  • มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยโดยการสวมถุงยางอนามัย
  • งดบริจาคโลหิต
  • ไม่ดื่มสุรา ของมึนเมา
  • ไม่ใช้ยาโดยไม่ปรึกษาแพทย์
  • พักผ่อนให้เพียงพอ

ที่มา : คู่มือรู้ทันโรคและภัยสุขภาพสำหรับประชาชน โดยสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0