ในหลวงรัชการที่ 9 กับพระอัจฉริยภาพในการถ่ายรูป

หลายท่านคงคุ้นเคยกับพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่มีกล้องห้อยอยู่ที่พระศอขณะทรงงานอยู่เสมอ พระองค์ทรงเริ่มถ่ายภาพเมื่อพระชนมายุได้ 8 พรรษา ด้วยกล้องที่พระราชชนนีทรงพระราชทานให้ โดยในอดีตเทคโนโลยีในอุปกรณ์ถ่ายภาพยังไม่พัฒนานัก ในการถ่ายภาพแต่ละครั้งต้องมีการปรับแต่งรูแสง และความไวของชัตเตอร์ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับผู้เริ่มถ่ายภาพ แต่พระอัจฉริยะภาพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงฉายพระอัจฉริยภาพมาตั้งแต่ครั้นที่พระองค์ยังทรงดำรงพระยศเป็นพระอนุชา พระองค์ทรงถ่ายภาพรามเกียรติ์ที่ผนังพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ วัดพระแก้ว และพระราชทานให้พิมพ์ลงในหนังสือพระราชทานเพลิงศพ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร
นอกจากนี้ พระองค์ท่านยังทำหน้าที่เสมือนช่างภาพส่วนพระองค์ในขณะตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลอีกด้วย เมื่อขึ้นครองราชสมบัติแล้ว ก็ทรงโปรดถ่ายภาพสิ่งต่าง ๆ เป็นประจำ ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ของพระองค์จะปรากฏบนปกนิตยสารต่าง ๆ เสมอ เช่น วารสารแสตนดาร์ดของพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเปรมบุรฉัตร โดยพระองค์เคยมีพระราชดำรัสอย่างพระอารมณ์ขันแก่คนสนิทว่า
“ฉันเป็นกษัตริย์ก็จริง แต่ฉันก็ยังมีอาชีพเป็นช่างภาพของหนังสือพิมพ์แสตนดาร์ด ได้เงินเดือนเดือนละ 100 บาท ตั้งหลายปี มาแล้ว จนบัดนี้ก็เห็นเขายังไม่ขึ้นเงินเดือนให้สักที เขาก็คงถวายไว้เดือนละ 100 บาทอยู่เรื่อยมา”

อย่างที่ทราบกันดีว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงเป็นพระราชานักประดิษฐ์ พระองค์องค์ทรงสนทรงสนพระราชหฤทัย เกี่ยวกับเทคโนโลยีการถ่ายภาพอย่างมาก และทรงคิดค้นเทคนิคใหม่ๆในการถ่ายภาพอยู่เสมอ รวมถึงการนำแว่นกรองแสงชนิดพิเศษติดหน้าเลนส์ ลักษณะของแว่นกรองแสงเป็นแผ่นใส ส่วนบนเป็นสีฟ้า ส่วนล่างเป็นสีแสด และเมื่อถ่ายภาพ ผลที่ได้ คือส่วนล่างเป็นสีธรรมชาติ ส่วนบนจะได้สีฟ้า และส่วนล่างจะได้สีแสด พระองค์ทรงเคยใช้แว่นกรองแสงนี้ทดลองฉายพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ทำให้สีของสิ่งต่าง ๆ ในภาพ เช่น ชุดฉลองพระองค์ พระเก้าอี้ พระวิสูตร พรม เป็นสีสอดคล้องสัมพันธ์เข้าเป็นสีชุดเดียวกัน พระองค์ทรงประดิษฐ์แว่นกรองพิเศษนี้ ในขณะนั้น ยังไม่มีบริษัทใดผลิตแว่นกรองแสงเพื่อใช้ในการถ่ายภาพมาก่อน

ผลงานของพระองค์ทรงทรงขจรขจายไปทั่ววงการถ่ายภาพทั้งไทยและต่างประเทศ ในปี พ.ศ. 2514 ทางสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย จึงได้ทูลเกล้าฯถวายเข็มทองศิลปะการถ่ายภาพแด่พระองค์ท่าน นอกจากนี้ ราชสมาคมถ่ายภาพแห่งสหราชอาณาจักร (The Royal Photographic Society of Great Britain) ได้กราบบังคมทูลเชิญให้ดำรงตำแหน่งราชบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (Honorary Fellow) และสหพันธ์ศิลปะการถ่ายภาพนานาชาติ (Fediration International de l’Art Photographique) ได้ขอพระราชทานทูลเกล้าฯถวายเกียรติบัตรสูงสุด (Honorary Excellent FIAP) ด้วย