ใต้ระทม น้ำท่วมสูง ฝนตกหนักต่อเนื่อง

สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดของภาคใต้ ยังขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มรุนแรงเพิ่มขึ้น เส้นทางสัญจรทั้งสายหลักสายรองถูกปิด เนื่องจากยังคงมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง

ที่ จ.สงขลา ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องมาเกือบ1สัปดาห์ทำให้เกิดกระแสน้ำกัดเซาะถนนทางหมายเลข43 หรือถนนสายเอเชีย สายสงขลา-ปัตตานี ฝั่งขาลงจ.ปัตตานีบริเวณบ้านเขาน้อย  ต.สะกอม อ.เทพา จนขาดระยะทางยาวประมาณ3เมตร ลึก3เมตร  ทำให้รถยนต์ของนาย บุรฉัตร จันทร์ประเสริฐ  เบรคไม่ทันพุ่งตกลงไปในช่องถนนที่ขาดแ ต่โชคดีที่ปลอดภัย   เจ้าหน้าที่ต้องปิดเส้นทางชั่วคราว และเปลี่ยนไปใช้ช่องทางขึ้นล่องสงขลา-ปัตตานี เพียงเส้นเดียว

ส่วนที่จังหวัดตรัง ฝนยังคงตกหนักตลอดทั้งคืน ส่งผลให้น้ำท่วมขยายวงกว้างอีกหลายพื้นที่  หลายตำบล ของอำเภอห้วยยอด ต้องจมอยู่ใต้น้ำ โดยชาวบ้านในพื้นที่ตำบลนาวง ไม่ต่ำกว่า 80 หลังคาเรือน ต้องจมอยู่ใต้น้ำ ถนนหลายสายถูกตัดขาด ระยะทางเป็นกิโลเมตร ชาวบ้านบางส่วนต้องใช้เรือในการเดินทางเข้าออกหมู่บ้าน โดยจังหวัดตรังประกาศเป็นเขตภัยพิบัติไปแล้วถูกน้ำท่วม 7 อำเภอ ราษฎรเดือดร้อน 12,000 ครัวเรือน 33,000 ราย พื้นที่การเกษตร(ด้านพืช) ได้รับผลกระทบ 170,000 ไร่ แต่สถานการณ์ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น เนื่องจากยังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง

ขณะที่สถานการณ์ในจังหวัดพัทลุง ยังคงมีฝนตกหนักในทุกอำเภอ ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่าน น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัด ที่ไหลหลากมาทางอำเภอตะโหมด ได้ไหลหากท่วมถนนสายหลักเพชรเกษมทั้งฝั่งขาขึ้นและขาล่องเป็นระยะทางยาวกว่า  400  เมตร ในพื้นที่ หมู่1,9 ของ ตำบลเขาชัยสน อำเภอเขาชัยสน และ หมู่ 8,13 ตำบลโคกสัก อำเภอบางแก้ว จังหวัดพัทลุง ทำให้น้ำหลากท่วมพื้นผิวจราจรสูงถึง 50 เซนติเมตร  ต้องปิดการจราจรชั่วคราว เจ้าหน้าที่แนะนำให้หลีกเลี่ยงไปใช้ถนนสายอื่นแทน

แต่แม้ว่าสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ทั้ง 11 อำเภอยังคงถูกน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่อยู่ติดกับแม่น้ำปัตตานี และแม่น้ำสูงบุรี ส่งผลให้ บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหาย 8,956 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 14,625 ราย  สถานการณ์น้ำท่วมก็ไม่อาจจะทำให้ประชาชนต้องอยู่กับความทุกข์ตลอดไป เมื่อชาวบ้านหลายพันคนเดินทางมาเล่นน้ำ ที่ล้นสปิลเวย์ จากเขื่อนปัตตานี  ทำให้บนสันเขื่อนปัตตานี และบริเวณด้านท้ายเขื่อน เต็มไปด้วยผู้คน ยาวกว่า 1 กิโลเมตร