วันที่ 23 มี.ค. ที่ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต ซุปตาร์สาวชื่อดัง มาร่วมเดินแฟชั่นโชว์ชุดชั้นในซาบีน่า ในงาน Everywhere is Wireless Shape ในฐานะพรีเซ็นเตอร์ จากนั้นได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่ผู้จัดการส่วนตัวโพสต์ไอจีรอบที่สองว่า เพจขายกางเกงลดน้ำหนักยังไม่หยุดเอาชื่อคุณแม่ลูกแฝดไปแอบอ้าง
โดยชมพู่เผยว่า “ไม่รู้นะ เขาทำในส่วนของเขาไป เราก็ทำในส่วนของเรา ไม่เป็นไร อย่างที่เคยพูดว่าชมจะไม่บอกหรอกว่าจะทำอะไร คือชมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ เดี๋ยวให้คนที่เขาถนัดดำเนินการไปดีกว่า เขาคงคิดว่าดาราไม่มีเวลา ซึ่งมันก็จริง เพราะเราต้องคิดหลายเรื่อง บางทีเรื่องคดีความมันยุ่งยากจนเราอ่อนใจไปเอง บางทีก็ไม่อยากทำ ก็โอเคไม่เป็นไร เดี๋ยวเราให้คนอื่นทำให้เรา”
มีการดำเนินการไปแล้วบ้างหรือยัง
“ตอนนี้ทิ้งเรื่องไว้ มีอะไรคืบหน้าเดี๋ยวคงรู้เองแหละ คือมันเห็นก็น่ารำคาญ แต่ไม่ได้เป็นเรื่องที่เราเอามาเก็บไปคิดให้หงุดหงิดมากมาย ก็ปล่อยผ่าน แล้วให้คนที่เขามีหน้าที่ช่วยเราตรงนี้ทำไป ส่วนเราก็ไปใช้ชีวิตอย่างอื่น ถ้าเขาคิดว่าเราไม่มีเวลาก็ไม่เป็นไร เราจะไม่มีการเตือนก่อน ถามแบบนี้ก็เหมือนเตือนแล้วเนี่ย เป็นข่าวไปแล้วก็ไม่เห็นเขาจะเพลาลงเลยนะ ตอนนี้กำลังสงสัยว่าเขาไม่ใช่คนไทย”
เป็นห่วงคนที่หลงซื้อไปมั้ย
“ทำไงได้ จริงๆ เรื่องแบบนี้บ้านเรามีเยอะด้วย พวกสินค้าออนไลน์อะไรแบบนี้ ไม่มี อย. บ้างอะไรบ้าง เยอะค่ะ ต้องใช้วิจารณญาณพอสมควร ถามว่าได้ปรึกษาผู้ดำเนินการไหมว่าเรื่องจะจบยังไง จริงๆ ชมไม่ได้ตามเรื่อง แต่มาถามเดี๋ยววันนี้ก็จะกลับไปถามเลยค่ะ”
ได้รับการติดต่อจากอีกฝ่ายมาไหม
“ไม่เห็นจะติดต่อมาเลย ถึงกำลังสงสัยว่าไม่ใช่คนไทยหรือเปล่า เพราะดูจากภาษาที่ใช้ ดูงงๆ เหมือนใช้กูเกิลทรานสเลตหรือเปล่า แล้วก็ไม่ดูข่าวไง ถ้าเป็นคนไทยป่านนี้ญาติเขาต้องบอกแล้วใช่ไหมว่า เออ ปิดร้านไหม เทศกิจมาแล้วอะไรแบบนี้(หัวเราะ) ก็ดูตามความเหมาะสมอีกที เราไม่ได้หวังรวยตรงนี้หรอก แค่ไม่อยากให้เกิดขึ้นในสังคม”
เห็นว่าช่วงนี้มีปัญหาเรื่องท่อน้ำนมตัน
“ก็โอเคนะ พอมีสต๊อกกับเขาบ้าง ไม่ได้หรูหรามากแต่ก็พอมีตู้นึง ปัญหาเรื่องตันก็มีบ้าง ชมว่ามันเป็นปัญหาที่แม่ลูกอ่อนจะเข้าใจ ก็แก้ปัญหากันไป เรียนรู้ไปเรื่อยๆ ก็เก่งขึ้นทุกวัน ถามว่าต้องปั๊มนมอีกนานเท่าไหร่ ชมไม่ได้วางแผนนะ แต่อยากให้ได้นานที่สุด การที่คุณแม่ยังต้องปั๊มอยู่ตลอดเวลา มันเป็นการจำกัดอิสรภาพในการไปทำงาน เพราะทุกๆ 2-3 ชม. เราต้องปั๊มนมแล้ว ชมเป็นคนไม่ถนัดการปั๊มนอกสถานที่ ก็จะกลับไปปั๊มที่ฐาน มันจะทำให้เราใช้ชีวิตทุลักทุเลนิดนึง”
“ชมพยายามมีวินัยนะ ลูก 6 เดือนแล้วก็ยังปั๊มได้วันละ 4-5 รอบ ทำดีที่สุดแล้ว เราทำงานด้วย ไม่ใช่แม่แบบฟูลไทม์ร้อยเปอร์เซ็นต์ พยายามจะมีวินัยแบบนี้ไปเรื่อยๆ ลูกก็เริ่มทานอาหารแล้ว แต่ยังทานไม่ได้มาก ต่อไปมื้ออาหารจะไปทดแทนมื้อของนม เขาจะใช้นมน้อยลง สต๊อกเราก็จะมีมากขึ้น เขาก็ยังทานอาหารอ่อนอยู่ ยังไม่ได้เก๋ไก๋อะไรมากมาย ทุกเช้าจะบดข้าวต้มผักกัน”
ยังมีแฮชแท็ก #อย่ามองตรงนั้นจะเป็นเรื่องใหญ่
“ก็ชิงแซวตัวเองก่อน(หัวเราะ) บางทีเสียเซลฟ์เพราะมันเกินเรื่องไปมาก บางทีเราแต่งตัวแล้วดูรูปร่างเปลี่ยนไป ดูไม่เหมือนเดิม ทั้งๆ ที่จริงๆ เราผอมมาก แต่มองตรงนั้นแล้วมันดูตัวใหญ่ เลยบอกอย่ามองตรงนั้น ถามว่ามันจะกลับมาเป็นปกติไหม ก็ต้องปิดนมค่ะ เขาบอกถ้าปิดนมมันจะหดไปอย่างมหัศจรรย์”
ต้องเลือกเสื้อผ้าในการออกงานยากไหม
“ยอมรับว่ามันมีข้อจำกัด อย่างบางชุดเราเคยใส่ดูโป่งๆ เพรียวๆ มันก็จะเหมือนดูแน่นๆ หนาๆ ตันๆ ขึ้น เชื่อว่าอาจจะเห็นจากหลายๆ งาน ยิ่งถึงเวลาปั๊มแล้วแต่ยังไม่ได้ปั๊มมันก็จะยิ่งต้องมองตรงนั้น สะดวกไซส์เดิมมากกว่าจริงๆ แล้ว(หัวเราะ) ถามว่าเสียความมั่นใจไหม ไม่หรอกมันคือวิถีแม่ลูกอ่อน ถูกไหม เป็นช่วงเวลานึงของชีวิตที่เราต้องเจอ ตอนนี้เป็นผีเห็นผีแล้ว เห็นแม่ลูกอ่อนเดินมาต่อให้ไม่อุ้มลูกมา ก็จะรู้ว่าเนี่ยแม่ลูกอ่อนแน่ๆ”
ถามถึงลูกชายฝาแฝด สายฟ้า-พายุ หลังจากออกอีเว้นต์แรกไปเป็นอย่างไรบ้าง
“กลับถึงบ้านก็สลบทั้งแม่ทั้งลูก เพราะว่าลุ้น เราหมดพลังงานไปกับการลุ้น เด็กก็เหนื่อย จริงๆ วันนั้นพอลงจากเวทีก็ร้องเลยนะ เพราะว่าเขาง่วงไง จริงๆ จังหวะมันสแตนด์บายนาน เรากะไม่ได้ว่าจะขึ้นเวทีเมื่อไหร่ แต่ว่าพอเปิดมาเจอคนก็งงไง เลยไม่ร้อง นางงงว่าทำไมทุกคนมองนาง ถามว่าเราลุ้นไหมว่าเขาจะงอแงหรือเปล่า ลุ้นมาก ถือว่าทำได้ดีนะ กลับบ้านก็ชมเขาว่าเก่งมากลูก สำหรับออกงานครั้งต่อไปจะง่ายขึ้นไหม มันเหมือนเราแค่ได้เรียนรู้นะ เพราะเด็กก็คือเด็ก คาดเดาไม่ได้ ต้องเข้าใจธรรมชาติเขาค่ะ”