โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

แนวคิดการลงทุน - กลยุทธ์ลงทุนหุ้นโดยใช้ P/E Forward & PEG

Stock2morrow

อัพเดต 17 พ.ย. 2560 เวลา 05.11 น. • เผยแพร่ 15 พ.ย. 2560 เวลา 04.41 น. • Stock2morrow
แนวคิดการลงทุน - กลยุทธ์ลงทุนหุ้นโดยใช้ P/E Forward & PEG
แนวคิดการลงทุน - กลยุทธ์ลงทุนหุ้นโดยใช้ P/E Forward & PEG

กลยุทธ์ลงทุนหุ้นโดยใช้ P/E Forward & PEG 
.
ค่า P/E ปกติ นอกจากคำนวณ โดยอิงกับกำไรปัจจุบันแล้ว ยังคิดคำนวณได้จากการคาดการณ์แนวโน้มจากอนาคตได้ด้วย หรือที่เรียกกันว่า Forward P/E 

ซึ่งการประเมินต้องใช้การคาดการณ์ผลประกอบการในอนาคต ทั้งนี้และสามารถหาได้จากบทวิเคราะห์ของแต่ละโบรคเกอร์ หรือ ใครพอมีพื้นฐานด้านการเงิน สามารถคำนวณเองได้ จาก Discount Cash Flow เบื้องต้นเองได้ไม่ยาก 
.
ข้อดีของการคิดค่า P/E Forward ทำให้นักลงทุนสามารถเทียบได้ว่า ถ้า P/E อนาคตสูงกว่าค่า P/E ปัจจุบัน ถ้าใช้สะท้อนได้ว่าเป็นโอกาสที่จะซื้อหุ้นได้ แต่ถ้าหากค่า P/E ของอนาคตต่ำกว่าค่า P/E ปัจจุบัน ถือได้ว่าเป็นโอกาสที่จะขายหุ้นออกไปก่อนก็ได้ 
.
ยกตัวอย่าง เช่น หุ้น ก มีค่า P/E อยู่ที่ 20 เท่า โดยคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิจะเติบโต 40% ดังนั้นค่า P/E ล่วงหน้า อาจจะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 40 เท่าได้ 
.
แต่หากว่า คาดการณ์กำไรในอนาคตจะต่ำลง เป็นไปได้ว่าค่า P/E ในอนาคตจะปรับตัวลดลงตามมาได้ ดังนั้น นักลงทุนอาจขายหุ้นไปก่อน เพื่อรอให้ราคาหุ้นสะท้อนผลประกอบการที่แท้จริงออกมาก่อน 
.
ยังไงก็ดี ต้องขอหมายเหตุเอาไว้ ค่า P/E ในอนาคตนี้ ไม่มีใครสามารถที่จะคำนวณได้ถูกต้อง 100% 
.
นอกจากนั้นยังมีค่า P/E อีกแบบหนึ่ง ที่อิงกับอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิ (Earning Growth) หรือ คือค่า PEG ratio ซึ่งจะใช้อัตราการเติบโตของกำไรสุทธิมาคำนวณ เพื่อหาค่าเฉลี่ยของ P/E ย้อนหลัง 
.
โดยทั่วไปแล้ว PEG มักจะใช้ผลประกอบการ 3-5 ปี ย้อนหลังในการคำนวณ หรือ ค่า P/E ปัจจุบัน หารด้วยอัตราการเติบโต (G) 
.

PEG > 1 แสดงว่า หุ้นตัวนั้นมีค่า P/E สูงกว่าอัตราการเจริญเติบโตของหุ้น 
.
PEG < 1 แสดงว่า หุ้นตัวนั้นมีค่า P/E ต่ำกว่าอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น 
.
ดังนั้นแล้ว ค่า P/E ที่เหมาะสม ไม่ควรมีค่ามากกว่า 1 ถ้าเกินแสดงว่า ราคาหุ้นแพงเกินไปกว่าการเติบโต

 

นอกจากนั้น PEG ยังสะท้อนถึง หุ้นที่มีการเติบโตถึงจะน่าลงทุนมากกว่าหุ้นตัวที่มีรายได้ทรงตัว เพราะผลประกอบการที่เติบโตจะดีกว่าหุ้นที่ไม่มีการเติบโต 

 

แม้ว่า PEG จะเป็นวิธีคิดประเมินมูลค่าหุ้นที่มีประโยชน์ เนื่องจากสามารถวัดความถูกแพงของหุ้นได้ โดยใช้ปัจจัยเรื่อง “อัตราการเติบโต” มาคิดคำนวณ แต่ข้อเสียก็มีเช่นกัน ถ้าเราต้องใช้ข้อมูล “ในอดีต” เพื่อคาดการณ์ในในอนาคต” ซึ่งไม่สามารถถูกต้อง 100% ได้เช่นกัน !!

 

การลงทุนหุ้น จึงต้องอาศัยทั้งศาสตร์และศิลป์ในการลงทุน ยังมีอีกหลายปัจจัยที่สามารถกระทบต่อราคาหุ้นได้ 

 

เขียนโดย Freedom VI 

stock2morrow

ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่ LINE@stock2morrow, FB:stock2morrow และ www.stock2morrow.com 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0