นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดรณรงค์ “คนไทยฟันดี สดุดีสมเด็จย่า สร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพช่องปาก” เนื่องในวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ ปี 2560 ว่า ในเดือน ต.ค.เป็นเดือนแห่งการรณรงค์ดูแลสุขภาพช่องปากของคนไทย กระตุ้นให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพช่องปากตลอดชีวิตตั้งแต่เด็กไปจนสูงอายุ ซึ่งจากผลการสำรวจสภาวะทันตสาธารณสุขครั้งที่ 7 ในปี 2555 พบว่า ผู้สูงอายุมีการสูญเสียฟันทั้งปากร้อยละ 7.2 ยังคงต้องการใส่ฟันเทียมทั้งปากร้อยละ 2.5 หรือ 236,000 คน ที่ผ่านมากรมฯร่วมกับวิชาชีพทันตกรรมและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ดำเนินโครงการฟันเทียมพระราชทานและการส่งเสริมสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุ โดยในปี 2561 ตั้งเป้าใส่ฟันเทียม 40,000 คน อย่างไรก็ตาม ผู้สูงอายุเป็นกลุ่มที่มีการสูญเสียฟันสูงสุดถึงร้อยละ 88 เหลือฟันใช้งานไม่ถึง 20 ซี่ ร้อยละ 37 ซึ่งปัญหาสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุที่พบได้บ่อย 7 ปัญหา ได้แก่ การสูญเสียฟัน ฟันผุและรากฟันผุ เหงือกอักเสบ ภาวะน้ำลายแห้ง แผลและมะเร็งช่องปาก ฟันสึก และโรคช่องปากที่เกี่ยวข้องกับเบาหวาน
ด้าน นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า สถาบันทันตกรรมเป็นสถาบันที่ให้บริการด้านทันตกรรมเฉพาะทาง ขณะนี้ได้นำเทคโนโลยีเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ทางทันตกรรมหรือเครื่องเดนตีสแกน 2.0 ซึ่งเป็นเครื่องสแกนแบบ 3 มิติมาใช้เพื่อให้บริการแก่ประชาชน ซึ่งในวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ สถาบันฯได้ให้บริการทางทันตกรรม เช่นตรวจฟัน อุดฟัน ถอนฟัน และขูดหินปูน แก่ผู้ป่วย 300 คนฟรี.