จเร ตร. ชี้แจงสั่งย้ายผกก.สภ.ป่าตอง-พวกรวม10นายไปช่วยราชการ เพราะมีหลักฐานข้อมูลการเรียกรับผลประโยชน์ในพื้นที่
วันนี้( 19 พ.ย.60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าข้าราชการตำรวจ 4 นาย ประกอบด้วย พ.ต.อ.ทัศนัย โอฬาริกเดช ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรป่าตอง จังหวัดภูเก็ต , ร.ต.อ.หญิง ศรีสุดา เมืองแก้ว , ด.ต.จักกรฐิพนธ์ นาคพงศ์ภัค และด.ต.วรฉัตร ทัพพุน สังกัดสถานีตำรวจภูธรป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ถูกสั่งให้ไปช่วยราชการที่ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยพล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รักษาราชการแทนจเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ลงนามเซ็นคำสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูง และระดับอื่นๆ ลดหลั่นกันลงไป รวม 10 นาย เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา
โดยคดีนี้ สืบเนื่องจากมีการร้องเรียนจากผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ในจังหวัดภูเก็ตว่า ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายหน่วยงานเรียกรับผลประโยชน์ รีดส่วย และรีดไถผู้ประกอบการ เดือนละกว่า 100 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบการจับกุมบุคคลต่างด้าว แต่ไม่ส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) นับพันคน
นอกจากนี้ ยังมีการอ้างว่าตรวจพบหลักฐานเป็นโพย “ส่วย” ที่ผู้ประกอบการบางรายในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ต้องจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายหน่วยงาน โดยโพยดังกล่าวระบุถึงวันเวลา หรือวงรอบ ที่ต้องจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมระบุชื่อผู้รับเงิน และหน่วยงาน รวมถึงจำนวนเงินเอาไว้ด้วย โดยมีตั้งแต่ 1,000-5,000 บาทต่อเดือน
ขณะที่พล.ต.อ.สุชาติ เปิดเผยว่า หลังจากเข้าไปตรวจสอบกรณีมีการร้องเรียน เรื่องส่วย 100 ล้านบาท ที่จังหวัดภูเก็ต จึงได้ตรวจสอบสืบสวน จนพบว่าข้อเท็จจริงจริงมีมูล มีการตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงผู้ที่เกี่ยวพัน มีข้อมูลหลักฐานคำให้การผู้ประกอบการ ภาพวงจรปิด การโอนเงินที่โยงใยไปถึงตำรวจที่ถูกกล่าวหา หลักฐานมากพอที่จะดำเนินคดีอาญาได้ จึงออกคำสั่งตามอำนาจหน้าที่ ให้ตำรวจที่เกี่ยวพันพ้นจากหน้าที่ ออกนอกพื้นที่ เพื่อเปิดโอกาสให้การสืบสวนสอบสวนตามกระบวนการทั้งทางอาญา และวินัย ซึ่งภายในต้นสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนเรื่องนี้
ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุชาติ ยังยืนยันว่า มีอำนาจหน้าที่ในการออกคำสั่งย้าย หากผู้เกี่ยวข้องในคำสั่งรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ให้ไปฟ้องร้องต่อศาลปกครอง นอกจากนี้ยังพบว่า มีความพยายามโยงใยว่าเป็นความขัดแย้งของนายตำรวจผู้ใหญ่กับตำรวจในพื้นที่ แต่พล.ต.อ.สุชาติยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกัน แต่เป็นการย้ายตำรวจที่ตรวจสอบพบว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ร้องเรียนและพบว่าพยานหลักฐานมีมูลที่ต้องสืบสวนสอบสวน