ชัยชนะ 5-0 เหนือเอฟซี ปอร์โต้ ในการแข่งขันรอบ 16 ทีมสุดท้าย เลกแรก ถือเป็นชัยชนะของทีมเยือนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสโมสรจากอังกฤษในรอบน็อคเอาท์ของรายการนี้ และถือเป็นความพ่ายแพ้ของทีมเจ้าถิ่นที่ยับเยินที่สุดในประวัตศาสตร์ฟุตบอลของโปรตุเกส และทำให้ทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ แทบจะการันตีการผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย งานนี้ก็มีคนนึงที่อยากจะชนกับลิเวอร์พูลเหลือเกินในรอบ 8 ทีมสุดท้าย เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก 'ลิโอเนล เมสซี่' กองหน้าจากทีม 'เจ้าบุญทุ่ม' เพิ่งทำสถิติใหม่ให้ตัวเองหลังจากพังประตูเชลซีได้สำเร็จในนัดที่ทั้งสองทีมเสมอกันไปที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และเป็นครั้งแรกที่เขาทำประตูทีมจากลอนดอนได้หลังจากพยายามมาถึง 9 นัด การทำประตูของเมสซี่ในนัดนี้ก็เท่ากับว่า ระหว่างสวมเสื้อบาร์ซ่า เขาสามารถยิงประตูทีมตรงข้ามได้เกือบหมดทุกทีมแล้ว โดยทำได้ 535 ประตูจาก 621 เกม มีเพียง11 ทีมเท่านั้นที่เขายังไม่สามารถเบิกสกอร์ได้ และ 'ลิเวอร์พูล' คือหนึ่งในนั้น
เมสซี่ มีวัยเพียง 19 เท่านั้นตอนที่ลงแข่งกับหงส์แดงเมื่อ 11 ปีก่อน (2007) ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งลิเวอร์พูลเอาชนะไปได้ 2-1 ที่คัมป์ นู และพวกเขากลับมาชนะที่แอนฟิลด์ 1-0 แต่เมสซี่ทำประตูไม่ได้เลย นอกจากนี้ดาวเตะฟ้าขาวยังไม่สามารถยิงประตูทีมยุโรปอย่างเบนฟิก้า, รูบิน คาซาน, อินเตอร์ มิลาน และอูดิเนเซ่ และไม่สามารถส่งลูกไปตุงตาข่ายได้ในการแข่งขันฟุตบอลสโมสรโลกรอบชิงฯ กับทีมของซาอุดิ อาระเบียอย่างอัล ซาดด์ เมื่อปี 2011 นอกจากนี้แล้วก็ยังมีทีมจากสเปนด้วยกันอย่าง กรามาเน็ต, คิโรน่า, เรอัล มูร์เซีย, เซเรซ และคาดิซ ที่เจ้าตัวยังไม่สามารถยิงได้เช่นกัน แต่ 'เมสซี่' ก็จะมีโอกาสล้างอาถรรพ์พังประตูได้สำเร็จอีกทีมเมื่อคิโรน่าจะไปเยือนคัมป์ นู ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ บาร์เซโลน่าเป็นทีมตัวเต็งที่จะผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย แน่นอนว่าเมสซี่จะได้มีโอกาสทดสอบความสามารถกับกองหลังอย่างเวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค และทัพแผงหลังที่เหลือของลิเวอร์พูล แต่แน่นอนว่าพวกเขาต้องผ่านทีม 'เชลซี' ให้ได้ก่อนเป็นลำดับแรก