นครพนม-เปิดใจ 2 พยานปากเอกคดีครูไม่แพะ “ครูจอมทรัพย์”หลังศาลฏีกายกคำร้องรื้อคดีขับรถชนคนตาย “นางทัศนีย์” ยืนยันไม่ได้ให้การเท็จ ไม่คิดหนี ขณะที่ “นางทองเรศ” ยอมรับกลัวติดคุก เพราะฝ่ายตำรวจป่าวประกาศจะแจ้งจับขบวนการรับจ้างรับผิดแทนนางจอมทรัพย์
จากกรณีนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตครูใน จ.สกลนคร ถูกกล่าวหาว่าขับรถชนคนตาย เหตุเกิดถนนสายธาตุน้อย-นาเหนือ ต.ท่าลาด อ.เรณูนคร เมื่อวันที่ 11 มี.ค.2548 ก่อนถูกศาลตัดสินจำคุก 3 ปี 2 เดือน ลดโทษเหลือติดคุกจริง 1 ปี 6 เดือน ต่อมาเจ้าตัวร้องขอรื้อฟื้นคดีกับกระทรวงยุติธรรม
จนกระทั่งวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดนครพนมได้อ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา ตัดสินให้ยกคำร้อง หลังพิเคราะห์แล้วเห็นว่าพยานมีข้อพิรุธ ในช่วงนำสืบระหว่างวันที่ 8-10 ธ.ค.56 ที่ผ่านมา
สำหรับทางด้านคดี ล่าสุด ผบก.นครพนม ตั้งคณะทำงานคลี่คลายคดี พร้อมสั่งฟันพยานเท็จในคดีครูจอมทรัพย์ เพื่อดำเนินคดี เนื่องจากมีกระบวนการออกมารับผิดแทน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้( 21 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 2 ต.นาคู่ อ.นาแก จ.นครพนม ซึ่งเป็นบ้านของนางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ วัย 61 ปี หนึ่งในพยานปากเอกของนางทัศนีย์ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครพนม ออกหมายเรียกในข้อหาให้การเท็จและมีหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาในคดีครูจอมทรัพย์ อีกทั้ง นางทัศนีย์ยังเคยไปให้การชั้นศาลเป็นพยานฝ่ายผู้ร้องในนัดสืบพยานในห้วง 3 วันดังกล่าว
จนกระทั่งศาลพบข้อพิรุธ เพราะคำให้การแต่ละครั้งไม่ตรงกัน อีกทั้งเจ้าหน้าที่ยังมีหลักฐานว่านางทัศนีย์ไปปรากฏตัวที่ สภ.เรณูนคร พร้อมกับนายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง และยังไปที่ สภ.เมืองนครพนม พร้อมกับครูอ๋อง และนายสับ วาปี พร้อมพวกรวม 8 คนนั้น
นางทัศนีย์ เปิดเผยว่า ตนไม่ขอยุ่งเกี่ยวแล้ว เหมือนทำบุญบูชาโทษ เพิ่งเคยเห็นหน้าครูจอมทรัพย์หลังออกจากคุกและแวะมาหาที่บ้านพร้อมกับนายสุริยา หรือครูอ๋อง และนายนิรันดร์ แสนเมืองโคตร สามีครูจอมทรัพย์ ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีหมายเรียกจากตำรวจจะไปให้ปากคำหรือไม่ นางทัศนีย์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ขอตอบเพราะยังมีภาระอีกหลายอย่าง ถ้าเจ้าหน้าที่กล่าวหาว่าตนเป็นพยานเท็จก็รู้สึกเฉยๆ แต่ทำไมต้องให้ตนเดือดร้อนด้วย เพราะไม่เคยได้อะไรเลย หากมีหมายจับมาจริงก็จะเรียกให้ชาวบ้านมาช่วย แต่ยืนยันว่าจะไม่หลบหนีไปไหน
หลังจากนั้น ผู้สื่อข่าว เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 57 หมู่ 2 ต.นาคู่ ซึ่งเป็นบ้านนางทองเรศ วงศ์ศรีชา อายุ 52 ปี อีกหนึ่งในพยานปากเอกของครูจอมทรัพย์ ที่เคยไปเบิกความต่อศาลจังหวัดนครพนม ในนัดสืบพยาน 3 วันห้วงระหว่างวันที่ 8-10 ธ.ค.56 ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพักนางทัศนีย์ราว 200 เมตร โดยนางทองเรศ กล่าวว่า วันที่ 9 ธ.ค. เวลาประมาณ 13.00 น. ขึ้นไปเบิกความเป็นพยานที่ศาลจังหวัดนครพนม ในคดีครูจอมทรัพย์
ซึ่งศาลได้ซักถามว่าตนเห็นคนขับรถชนนายเหลือหรือไม่ จึงตอบไปว่าขณะเกิดเหตุซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์นางทัศนีย์ พบเห็นนายเหลือจูงจักรยานผ่านมา และมีรถชนกันบนถนน
นางทองเรศ บอกต่ออีกว่า ศาลจึงนำคลิปวีดีโอที่เคยให้สัมภาษณ์กับนักข่าว หลายช่องมาเปิดให้ตนดู ศาลบอกว่าทำไมให้การไม่ตรงกัน ตนจึงตอบไปว่าตนอยู่หลังรถกระบะที่มีผู้ขับชนคนตาย ช่วงนั้นมีไฟหน้ารถเปิดอยู่ไม่ได้ปิด ชนเสร็จเห็นคนเดินลงมาจากรถเป็นผู้ชาย แต่ไม่ทราบว่ารถทะเบียนและหมวดอักษรอะไร ตนพูดตามความจริงไม่ได้เสแสร้งอะไร
อย่างไรก็ตามหลังมีข่าวว่าศาลพิพากษาตัดสินยกคำร้องครูจอมทรัพย์ ในวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนดูข่าวทางทีวีที่บ้านจนทุกวันนี้ทำให้กินไม่ได้นอนไม่หลับ ยอมรับเป็นว่ากังวล เพราะกลัวว่าจะติดคุก