วันที่ 24 มี.ค. ที่วัดป่าพุทธมงคล ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ บริเวณหน้ามณฑปมหามงคลยอดแก้ว กำลังจากผู้ต้องขังเรือนจำจ.กาฬสินธุ์ และจิตอาสา จ.กาฬสินธุ์ ได้จัดเตรียมพื้นที่ตลอดทั้งวัน เพื่อการเผาศพผู้เสียชีวิจากอุบัติเหตุรถทัวร์พลิกคว่ำ เสียชีวิต 18 ราย ที่ จ.นครราชสีมา
ทั้งนี้พ่อค้าคหบดีและประชาชน ได้มอบยางรถยนต์ ไม้ฝืน ให้กับทางวัด ที่ได้รับเมตตาจากพระราชศีลโสภิต หรือหลวงปู่หนูอินทร์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัด(มหานิกาย) เจ้าอาวาสวัดป่าพุทธมงคล เกจิชื่อดัง เป็นผู้กำหนดพื้นที่และออกแบบให้ดำเนินการตามขนมธรรมเนียมโบราณ ที่มีมาแต่ปู่ย่าตายายอย่างเคร่งครัดโดยดงกระยอมอุดมคุณ จะมีพิธีฌาปนกิจเวลา 14.00 น. จำนวน 5 ศพ ที่วัดป่าพุทธมงคล ฌาปกิจในเวลา 16.00 น.จำนวน 9 ศพ รวมพรุ่งนี้จะมีการฌาปนกิจทั้งหมด 14 ศพ ซึ่งจะทำการจุดไฟเผาศพพร้อมกัน ซึ่งสาเหตุที่ต้องทำการเผาแบบก่อกองฟางชาวบ้านได้บอกว่าในวัดมีเตาเผาศพไม่เพียงพอ จึงต้องใช้วิธีการเผาแบบนี้โดยญาติๆ ทุกคนก็ไม่ได้ติดขัดอะไร อยากให้ประกอบพิธีพร้อมกันเพราะถือว่าประสบเหตุพร้อมกันเลยอยากส่งผู้ล่วงลับสู่สุคติพร้อมกันและจะทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลไปพร้อมๆ กัน
นายศักดิ์สิทธิ์ พลไกรสร ชาวบ้าน ต.หลุบ ได้บอกว่า ถือเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของชาว จ.กาฬสินธุ์ ที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น โดยทุกคนต่างไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นมาแล้วต้องช่วยกันประคับประคองญาติผู้เสียชีวิต โดยชาวบ้านและหน่วยกู้ภัยได้ช่วยกันทำกองฟอนเพื่อฌาปนกิจศพผู้เสียชีวิต ซึ่งถือเป็นการเผาศพแบบสมัยโบราณและได้สูญหายไปแล้วเนื่องจากทุกวันนี้ทุกวัดจะต้องมีเมรุ แต่เมื่อเกิดมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากทำให้มีเมรุเผาศพไม่เพียงพอจึงต้องใช้วิธีการเผาแบบโบราณ แต่ทั้งนี้ก็ไม่เคยมีการฌาปนกิจหมู่จำนวนมากเช่นนี้มาก่อนเป็นครั้งแรกในชีวิตเลยทีเดียว
ขณะที่ในช่วงค่ำนายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ ได้มอบหมายให้นายสนั่น พงษ์อักษร รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานในการสวดพระอภิธรรมคืนสุดท้าย ในเวลา 18.00 น. ที่วัดดงกระยอมอุดมคุณ บ้านกลางดง ต.ห้วยโพธิ์ จ.กาฬสินธุ์ ที่มีร่างผู้เสียชีวิตตั้งศพบำเพ็ญกุศล 4 ราย ประกอบด้วย นางเพลินพิศ จำปาศรี, น.ส. โชติกา(จิราภรณ์) ไชยกำบัง, นางละม่อม อังคะแสน และ นางสำราญ จันทร์สว่าง
จากนั้นเวลา 20.00 น.เป็นพิธีสวดพระอภิธรรม ที่วัดป่าพุทธมงคล บ้านหลุบ ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ โดยวันนี้เป็นคืนสุดท้ายที่ได้ทำพิธีบำเพ็ญกุศลผู้เสียชีวิต 9 ศพ จากเดิมมี 8 ศพ ประกอบด้วย นางนภาวรรณ จำปาศรี, ด.ญ.พรรณวดี ถิตย์ถนอม, นางสมพิศ สิทธิชุม, ด.ช.ธนาธิน พลไกรษร, นายประยูร วังพิกุล, ด.ญ.ปวีณ์สุดา วังพิกุล, นางบุญชิต สิทธิชุม, ด.ญ.ธนัญชนก ขันธบูรณ์ และนางทองสอน ปรีวิลัย ที่ญาติได้นำร่างมาตั้งบำเพ็ญกุศลคืนสุดท้ายที่วัด หลังจากคืนแรกได้ทำพิธีที่บ้าน และจะฌาปนกิจศพพร้อมกันในวันพรุ่งนี้ โดยบรรยากาศการสวดพระอภิธรรม คืนสุดท้ายเนื่องแน่นไปด้วยประชาชน ญาติพี่น้อง จำนวนมาก ที่เดินทางมาร่วมแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต
