โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

เจาะตัวเลข Top 3 หุ้นกลุ่มค้าปลีก

Stock2morrow

อัพเดต 18 ม.ค. 2561 เวลา 03.01 น. • เผยแพร่ 17 ม.ค. 2561 เวลา 09.09 น. • Stock2morrow
เจาะตัวเลข Top 3  หุ้นกลุ่มค้าปลีก
เจาะตัวเลข Top 3 หุ้นกลุ่มค้าปลีก

เจาะตัวเลข Top 3  หุ้นกลุ่มค้าปลีก

 

               หุ้นอีกกลุ่มหนึ่งที่มีการรีเควสจากนักลงทุนหลายๆท่าน คือ กลุ่มค้าปลีก เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับงบปีที่กำลังจะออกมา วันนี้จะขอชักชวนนักลงทุนทุกท่านมา อัพเดตงบการเงินกลุ่มนี้กันหน่อย โดย 3 ตัว ที่เลือกมาในวันนี้ ถือเป็น Top 3 ของกลุ่ม ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั่นคือ CPALL , MAKRO , ROBINS ผ่านเกณฑ์ทั้งหมด 6 เกณฑ์ 

1.รายได้รวม

2.ROE

3.อัตรากำไรสุทธิ

4.P/E

5.D/E

6.อัตราส่วนเงินปันผล

 

 รายได้รวม

 

 

 

               ในส่วนของ รายได้รวม ไตรมาส 3/60 CPALL มีรายได้มากที่สุด 361,369.95 ล้านบาท รองลงมา คือ MAKRO ที่ 137,871.52 ล้านบาท CPALL ดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซื้อภายใต้เครื่องหมายการค้า 7-Eleven และให้สิทธิแก่ผู้ค้าปลีกรายอื่นในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย CPALL มีรายได้มากที่สุด เกิดจากการที่บริษัทใช้กลุยุทธ์เปิดสาขาครอบคลุมทุกหัวมุมถนน ย่านชุมชน และย่านธุกิจ เน้นบริการอาหารสะดวกอิ่มทั้งเบเกอรี่และ อาหารแช่แข็ง รวมทั้งตัวแทนรับชำระเงินค่าสินค้าและบริการ รวมถึงการลงทุนในธุรกิจศูนย์จำหน่ายสินค้าแบบชำระเงินสดและบริการตนเองภายใต้ชื่อ "แม็คโคร"

 

 

อัตรากำไรสุทธิ

 

 

                ในส่วนของ อัตรากำไรสุทธิ ไตรมาส 3/60 ROBINS  มีกำไรมากที่สุด 8.64% รองลงมา คือ CPALL  ที่ 3.98% ตัวแปรสำคัญที่ทำให้อัตรากำไรสุทธิแตกต่างกัน คือ การจัดการค่าใช้จ่ายในการบริหาร จะสังเกตได้ว่ากำไรธุรกิจนี้มีความแตกต่างค่อนข้างมากและไม่ได้ขึ้นกับขนาดของกิจการ โดยภาพรวมอุตสาหกรรมนี้มีกำไรค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับหลายๆอุตสาหกรรมในตลาดฯ

 

เกณฑ์ต่อไป คือ ROE / Return on Equity

 

 

 

                ROE / Return on Equity ตัวที่ให้ ROE  มากที่สุด คือ MAKRO ที่ 39.69%  แม้ว่าจะมี D/E น้อยกว่า CPALL ก็ตาม รองลงมาเป็น CPALL ที่ 33.62% ภาพรวม ทั้ง 3 บริษัท มี ROE แตกต่างกันค่อนข้างมาก

 

P/E

 

 

 

ในส่วนของ P/E เบอร์1 คือ CPALL  ที่  37.98 เท่า และ MAKRO  เป็นอันดับ 2 ที่ 31.63 เท่า นักลงทุนจะสังเกตว่า P/E ในกลุ่มค้าปลีกนั้นถือว่าสูงมาก เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นๆในตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจาก urbanization Trend ซึ่งถือเป็น Mega Trend อย่างหนึ่งของโลกเลยทีเดียว

 

 

                ในส่วนของ D/E เบอร์ 1 คือ   CPALL ที่ 3.99 เท่า รองลงมา คือ MAKRO ที่ 2.43 เท่า ในภาพรวมแล้ว กลุ่มอุตสาหกรรมนี้ มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนที่ต่ำมากแตกต่างกันค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นๆ โดยเฉพาะ CPALL ที่มีหนี้เกือบ 4 เท่าของส่วนทุน

 

 

                ในแง่ของ อัตราส่วนเงินปันผล เทียบราคาปัจจุบัน สูงสุด คือ  MAKRO  2.18% ตามมาด้วย ROBINS ที่ 1.74% ในภาพรวมแล้วอุตสาหกรรมนี้จะจ่ายปันผลค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นในตลาดฯ เกือบทุกบริษัทยังคงต้องใช้เงินในการขยายธุรกิจเพิ่มสาขาต่อไป

 

 

 

- Vira -

หมายเหตุ :  ข้อมูลที่นำมาใช้ในการวิเคราะห์อ้างอิง วันที่  15.1.2018 จากเว็บไซต์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และไม่ได้มีเจตนาชี้นำการลงทุนใดๆ

 

stock2morrow

ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่ LINE@stock2morrow, FB:stock2morrow และ www.stock2morrow.com 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0