“ชมพู่ อารยา” ยกครอบครัวออกงานพร้อมหน้า อุบตอบฟาดค่าตัว 15 ล้าน ขอรู้แค่ตนกับลูกค้าก็พอ บอกกังวล กลัวไม่รอด กระซิบบอกลูก อย่าทำแม่งามหน้านะลูก เผยโผล่สน. แจ้งความสมุดบัญชีหาย ไม่ต้องตกใจเงินในบัญชีมี 700 ไม่เกี่ยวพวกแอบอ้าง ลั่นไม่เสียเวลาดำเนินการเอง เพราะมีคนอื่นดำเนินการให้
รับทรัพย์ยกครอบครัวเลยทีเดียว สำหรับ “ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต” กับสามี “น็อต วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์” อุ้ม “น้องสายฟ้า-พายุ” มาออกอีเวนต์เป็นครั้งแรก ในฐานะพรีเซ็นเตอร์เบบี้เลิฟ ซึ่งจัดงานเปิดตัวที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเอ็มบาสซี ท่ามกลางเสียงกรี๊ดในความน่ารักของลูกแฝดสนั่น งานนี้ชมพู่ก็เผยว่าแอบกระซิบบอกลูกว่าอย่าทำคุณแม่งามหน้านะจ๊ะ
“ก็ตื่นเต้นเนอะ ไม่ได้คิดถึงตัวเองเลยนึกถึงแต่ลูกว่าจะรอดมั้ย ตอนไปถ่ายเห็นสตอรี่บอร์ดก็ชอบนะ มันสะท้อนอะไรที่เป็นตัวตนของเรา มันโดน มันใช่ เราก็เชื่อในสตอรี่บอร์ด ก็คิดว่าคนดูจะเชื่อเหมือนกัน ทีมงานบอกว่าตั้งแต่ถ่ายเด็กมาก็ถือว่าเขาใช้ได้ แต่ก็ปกติต้องมีหยุดพักให้เขานอน ตอนนอน กองก็ต้องหยุด ทำอะไรไม่ได้ ไม่งั้นเขาจะงอแง”
“แววเข้าวงการตอนนี้ยังไม่ออกนะ ต้องดูกันต่อไป จริงๆ เขาก็ไม่ได้กลัวคนมากแต่วันนี้ก็น่าจะเจอคนเยอะ ที่สุดแล้วก็พยายามพาเขาไปเจอคนไม่อยากให้กลัวคน จริงๆ ในฐานะที่เราอยู่ในวงการมาก่อน เราก็กลัวเรื่องความลำบาก กลัวร้อน นิดหนึ่ง แต่ทีมงานน่ารัก ลูกค้าต้องเคยถ่ายเด็กมา ทางผู้กำกับก็น่ารัก ถ่ายเด็กก็ต้องเอาเด็กเป็นหลักอยู่แล้ว ที่บอกว่าเราสีหน้าเป็นกังวล(หัวเราะ) เราก็ไม่อยากให้ลูกร้อง ก่อนมาวันนี้หลับไปแล้วสามรอบ ก่อนออกงานก็มีบอกเขาว่าอย่าทำงามหน้านะลูก(หัวเราะ) เมื่อคืนก็หลับ ตื่นตามเวลาเขา ตื่นมาก็เต็มที่”
โอดยังป่วย งานต่อไปขอดูความเหมาะสม
“ป่วย คุณแม่ก็ป่วย ลูกก็ติดแม่ คนเลี้ยงก็ติดลูก ยายก็ติดหลาน เป็นกันทั้งบ้าน ตอนนี้ก็ดีขึ้นแต่คนสุดท้ายที่ยังไม่หายคือชม เขาหายกันหมด งานต่อไปก็แล้วแต่ต้องดูความเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสินค้าก็ต้องตรงกับไลฟ์สไตล์เราก็ต้องเชื่อไม่งั้นคนดูจะเชื่อได้ยังไง ชมว่าวิธีการสื่อสาร อย่างเบบี้เลิฟมันใช่เลย ดูหนังดูสตอรี่บอร์ดแล้วมันใช่เรา”
“จริงๆ คุยกันมาสักพักแล้วแต่เรื่องการถ่ายก็รอให้เขาโต อันนี้ถ่ายตอนเข้าประมาณ 4-5 เดือน ก็โอเคประมาณหนึ่งแต่เด็ก 4-5เดือนก็จะมีข้อจำกัด นั่งไม่ได้ยังคลานไม่ได้ เวลาถ่ายจะมีข้อจำกัดเขา ได้ประมาณหนึ่ง”
อุบค่าตัว 15 ล้าน ลั่นเอาตามความเหมาะสม บอกขำๆ กะจะอมนิดหนึ่ง
“เขาแล้วแต่เรา ค่าตัวก็เอาเป็นว่าเหมาะสม ใช้คำเดิม (หลายคนบอกว่าค่าตัวถึง 15 ล้าน?) ก็เอาเป็นว่ารู้กันระหว่างเรากับลูกค้าแล้วกันแต่ก็เป็นอะไรที่เหมาะสมแหละ ตอนแรกแม่กะจะอมนิดหนึ่ง (หัวเราะ) แต่พอวันที่ถ่ายงานก็ไม่ได้ถึงกับชิล ก็ไม่ได้ถึงกับเอาเด็กมาทรมานนะ เรารู้สึกว่าลูกต้องมาเอาท์ดอร์ งั้นก็ให้เขาหมดแล้วกัน ซึ่งจริงๆ มันก็ควรจะให้เขาหมด ตอนแรกแม่กะอมนิดหนึ่ง”
“เราอยู่ในยุคที่เราเก็บเรื่องราวได้ง่ายพอสมควร มีไฟล์ที่เราเก็บได้ คิดว่าคงเป็นอะไรที่มีคุณค่าทางจิตใจกับเขาเวลาเขาโตขึ้น สินค้าอื่นก็มีคุยๆ บ้างแต่ยังไม่ได้สรุป ก็ไม่ถึงกับเยอะ ปานกลาง”
บอกแม่ยังไม่ค่อยออกอีเวนต์ ลูกก็คงประมาณนี้
“ชมคิดว่าเอากลางๆ ดีกว่าแล้วก็ดูเขาไป ยังไงเขาโตกว่านี้หน่อยเรื่องแรกมันก็เป็นเรื่องเรียนมากกว่าให้เขาเติบโตตามวัยอย่างที่เขาควรจะเป็น ทำงานวันสองวันจบเรื่องอีเวนต์ตัวแม่เองยังไม่ค่อยออกอีเวนต์เลยก็คงเป็นลักษณะถ้ามีงานลูกค้าก็ไป จริงๆ เราก็กำหนดลักษณะข้อจำกัดมาตรฐานการรับงานประมาณนี้ตั้งแต่ไหนแต่ไร 4 - 5 ปีถ้าไม่ใช่งานลูกค้าก็จะไม่ได้เจอตามอีเวนต์ แม่ประมาณนี้ ลูกก็น่าจะประมาณนี้เหมือนกัน ส่วนเรื่องแบ่งเงิน ก็แบ่งให้ลูกทั้งคู่ เท่าๆ กัน”
โผล่สน. แค่แจ้งเรื่องสมุดบัญชีหาย ไม่เกี่ยวแจ้งความกางเกงลดน้ำหนักแอบอ้าง ยันไม่เสียเวลามานั่งทำเอง มีคนทำให้ ส่วเรื่องตัวเลขในบัญชี ไม่ต้องตกใจ มีแค่ 700
“ใช่ค่ะ ไปแจ้งเรื่องสมุดบัญชีหาย ชมก็แบบนี้แหละชอบถ่ายรูปข้างถนน ไม่มีอะไร ส่วนใหญ่เขาเข้าไม่ถึงเรา ผู้จัดการนางอยู่ต่างประเทศก็บอกว่าขออัปนะ เพราะขี้เกียจตอบแล้ว ส่วนเรื่องแอบอ้างนั้นชมไม่ได้ทำเองอยู่แล้ว ถ้าทำก็มีคนทำให้ เอาจริงๆ เราไม่มีเวลามาใส่ใจเรื่องแบบนี้ ซึ่งตรงนี้ก็เป็นจุดอ่อนที่ทำให้คนพวกนี้คิดว่าดาราคงไม่มานั่งเสียเวลากับเรื่องแบบนี้หรอก จริงๆ เราก็ไม่ทำเอง ส่วนสมุดธนาคารก็หาไม่เจอตอนนี้ออกเล่มใหม่แล้ว (กลัวคนเจอตกใจถ้าเห็นตัวเลขในสมุดบัญชีไหม?) (หัวเราะ) ตกใจตัวเลข มีอยู่ 700 ส่วนเรื่องชุดพอดีเพื่อนถ่ายให้พอดี ชมชอบภาพเล่าเรื่องดี ชอบลงรูปแคนดิสๆ ภาพเล่าเรื่อง”
