จากกรณีคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) มีมติเห็นชอบให้เผยแพร่รายชื่อหลักสูตรระดับปริญญาตรี โท และเอก ของมหาวิทยาลัยที่ไม่ผ่านการรับรองมาตรฐานหลักสูตรจากผลการประเมินการประกันคุณภาพภายใน (ไอคิวเอ) เฉพาะในองค์ประกอบที่ 1 เรื่องจำนวนและคุณสมบัติอาจารย์ การบริหารจัดการหลักสูตร ตามเกณฑ์มาตรฐาน เป็นเวลา 2 ปีติดต่อกัน คือ ปีการศึกษา 2558 และ 2559 ซึ่งพบว่าใน 40 สถาบันอุดมศึกษามีหลักสูตรจำนวน 182 หลักสูตรที่ไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามการกำกับมาตรฐาน คิดเป็นร้อยละ 2 ของหลักสูตรทั้งหมด ประกอบด้วย หลักสูตรระดับปริญญาตรี 68 หลักสูตร ปริญญาโท 89 หลักสูตร ปริญญาเอก 24 หลักสูตร และประกาศนียบัตรบัณฑิต 1 หลักสูตร พร้อมทั้งเสนอให้สถาบันอุดมศึกษาเหล่านั้นงดรับนักศึกษา พร้อมปรับปรุงให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรอย่างเร่งด่วนภายใน 90 วันนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 12.10 น. วันที่ 17 ม.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) นายสุภัทร จำปาทอง เลขาธิการ กกอ. เปิดเผยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นไปตามมติ กกอ.ที่ต้องการให้มหาวิทยาลัยเร่งปรับปรุงคุณภาพ และต้องการให้ผู้เรียนได้รับทราบว่าหลักสูตรที่เรียนมีการปรับปรุงหรือยัง ส่วนผู้ที่สำเร็จการศึกษาไปแล้วจะไม่มีผลกระทบ ยังมีศักดิ์และสิทธิ์ในปริญญาเหมือนเดิม
นายสุภัทร กล่าวต่อว่า นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) มีนโยบายให้ สกอ.เป็นเผยข้อมูลหลักสูตรต่อสาธารณะและอยากให้มีการเผยแพร่เป็นระยะที่สั้นขึ้น เพื่อให้ข้อมูลมีความทันสมัยและสามารถตรวจสอบได้ แต่การเผยแพร่สู่สาธารณะต้องเป็นไปตามมติ กกอ.รวมทั้งยังสอบถามถึงกรณีถูกตั้งข้อสังเกตว่าข้อมูลของ สกอ.ถูกชักเข้าชักออก ซึ่งตนได้ชี้แจงแล้วว่าไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงข้อมูลหรือชักเข้าชักออก แต่เป็นการเรียงข้อมูลให้ดูง่ายขึ้น คือขึ้นชื่อมหาวิทยาลัยก่อน และค่อยขึ้นชื่อหลักสูตร
“กรณีที่มหาวิทยาลัยรามคำแห่ง (ม.ร.) จะเอาผิดทางกฎหมายกับ สกอ.ที่ทำให้เสียชื่อเสียงนั้น ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะปกป้องตัวเอง ผมในฐานะข้าราชการประจำและเป็นส่วนหนึ่งภายใต้การกำกับของ กกอ.ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ เพราะมติ กกอ.คือเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณะ ถามว่าปิดข้อมูลได้หรือไม่ ที่ผ่านมาก็เคยเห็นผลของการปกปิดข้อมูลแล้วว่าเป็นอย่างไร หรือการไม่เผยแพร่ข้อมูลให้ผู้เรียนได้รับทราบแล้วเป็นอย่างไร หากการรักษาผลประโยชน์ให้กับสาธารณะแล้วผิดวินัยราชการ ก็สามารถเอาผิดกับผมได้ แต่อย่าไปเอาผิดกับลูกน้องผม ทั้งนี้ขอย้ำว่าเป็นข้อมูลในปีการศึกษา 2558 -2559 ส่วนข้อมูลปีการศึกษา 2560 ยังไม่แล้วเสร็จ โดยคาดว่าข้อมูลล็อตแรกจะแล้วเสร็จในเดือน มี.ค.นี้” เลขาธิการ กกอ.กล่าว
นายสุภัทร กล่าวอีกว่า สำหรับกระบวนการประเมินการประกันคุณภาพภายในของ สกอ.นั้น มหาวิทยาลัยจะส่งข้อมูลลงออนไลน์ไอคิวเอของ สกอ.หลังสิ้นสุดปีการศึกษาภายใน 120 วัน กระบวนการกรอกข้อมูลทั้งหมดมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งจะดำเนินการด้วยตนเอง หากมีความเปลี่ยนแปลงก็สามารถแก้ไขได้ แต่ถ้าตรวจสอบข้อมูลเรียบร้อยและกดเสร็จสิ้นกระบวนระบบจะล็อค ไม่สามารถเข้าไปแก้ข้อมูลได้ สกอ.ก็จะยึดตามข้อมูลล่าสุด ทั้งนี้ตั้งใจว่าภายในต้นเดือน ก.พ.จะเชิญมหาวิทยาลัยทั้ง 40 แห่ง มาพูดคุยหาแนวทางแก้ไขปรับปรุงหลักสูตรที่มีปัญหา ไม่ใช่การตำหนิแม้หลายคนจะไม่คิดว่าตนเป็นเพื่อนอีกแล้วก็ตาม
นายสุภัทร กล่าวว่า สาเหตุที่หลักสูตรส่วนใหญ่ไม่ผ่านการประเมินฯ เพราะส่วนใหญ่จำนวนอาจารย์ผู้สอนต่อนักศึกษาไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่สกอ.กำหนด และเป็นไปได้ว่าระหว่างการประเมินมีอาจารย์ลาออกหรือเกษียณอายุราชการ เข้าใจว่ามหาวิทยาลัยหลายแห่งอยู่ระหว่างการปรับปรุงแก้ไข ส่วนจะแก้ปัญหาด้วยการเชิญอาจารย์จากมหาวิทยาลัยอื่น มาสอนในวิชาที่ขาดได้หรือไม่นั้น ตนมองว่าทำได้เพราะผู้เรียนเป็นคนไทยเหมือนกัน แต่จะติดเรื่องกฎระเบียบของมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งหรือไม่นั้น ต้องไปดูรายละเอียดต่อไป เป็นต้น
