เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎร์ ในจังหวัดนราธิวาสและพบกับผู้ป่วยโรคเรื้อน และพระองค์เสด็จเข้าไปหาและถามไถ่อาการอย่างใกล้ชิด แพทย์ที่ตามเสด็จก็ตกใจมากเลยกราบบังคมทูลกลัวว่าพระองค์จะติดโรค ท่านก็ตรัสว่า “แม้แต่แพทย์ก็ยังไม่เข้าใจว่าโรคเรื้อนนั้นติดต่อยาก ยังรังเกียจอยู่ จะต้องมีสถาบันหรือหน่วยงานสำหรับฝึกอบรมและให้ความรู้ในเรื่องดังกล่าว” จึงทำให้เป็นจุดเริ่มต้นที่พระองค์ทรงให้ความสนพระราชหฤทัยในเรื่องโรคเรื้อนซึ่งเป็นปัญหาในสมัยนั้น
ทำให้ในปีพ.ศ. 2499 พระองค์ทรงได้พระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเงิน “ทุนอานันทมหิดล” แก่ กระทรวงสาธารณสุข ให้เป็นทุนเริ่มแรกในการจัดสร้างอาคารภายในบริเวณ สถานพยาบาลโรคเรื้อนพระประแดง จ.สมุทรปราการ เพื่อจัดตั้งเป็นสถาบันฝึกอบรมและวิจัยโรคเรื้อน สนับสนุนการควบคุมโรคเรื้อนต่อไปโดยเงินที่เหลือจากการก่อสร้างอาคาร ครั้งนั้น พระบำราศนราดูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในขณะนั้น ได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตนำไปเป็นทุนก่อตั้งมูลนิธิ เพื่อช่วยส่งเสริมให้สถาบันราชประชาสมาสัยขึ้น
กระทั้งในวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2501พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงวางศิลาฤกษ์อาคารสถาบันราชประชาสมาสัยและต่อมาอีก 2 ปีหลังอาคารแห่งนี้สร้างเสร็จพระองค์ท่านได้เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ไปทรงเปิดอาคารด้วยพระองค์เอง และด้วยการดำเนินงานของสถาบันราชประชาสมาสัยตามโครงการพระราชดำรินั้น จำนวนผู้ป่วยจาก 50 คนต่อประชากร 1 หมื่นคน ลดลงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าอัตราผู้ป่วย 1 คนต่อ 1 หมื่นคน ตามหลักเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลก ซึ่งถือว่าสำเร็จเร็วกว่ากำหนดเป้าหมายที่องค์การอนามัยโลกตั้งเป้าไว้ถึง 6 ปี