'สน.สายไหม' โรงพักต้นแบบผ่านเปิดโครงการถนนสายไหมขับขี่ปลอดภัย สวมหมวกนิรภัย 100% ทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อน
วันนี้( 21 ม.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื่องจากสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนจากการขับขี่ด้วยความประมาทไม่สวมหมวกนิรภัย บ่อยครั้งจะเกิดขึ้นกับรถจักรยานยนต์ ที่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารไม่ยอมสวมหมวกนิรภัย จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ทางสถานีตำรวจนครบาลสายไหม จึงต้องเข้มงวดกวดขันวินัยจราจรมากขึ้น ด้วยการจัดโครงการถนนสายไหมขับขี่ปลอดภัย สวมหมวกนิรภัย 100 % ทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อน โดยการทำป้ายโฆษณาติดตั้งตามริมถนน ตามแยกต่างๆในพื้นที่ ลงพื้นที่โรงเรียนและชุมชน เพื่อสร้างความเข้าใจและขอความร่วมมือ ก่อนจะดำเนินการอย่างเคร่งครัด จับปรับจริง ด้วยอัตราสูงสุด 1,000 บาท
พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ ผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลสายไหม เผยว่าตามที่ สน.สายไหม ได้รับให้เป็นเมืองต้นแบบ ได้บังคับใช้กฎหมาย อย่างจริงจังกับผู้ที่ไม่สวมหมวกนิรภัย เนื่องจากสถิติที่ผ่านว่าพบ ว่ามีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่ไม่ยอมสวมหมวกนิรภัย ขณะขับขี่เป็นจำนวนมาก จึงมีนโยบายให้ยืมหมวกนิรภัยและนำไปคืนตอนเสียค่าปรับเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งเริ่มโครงการตั้งแต่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา จับกุมแล้วมากกว่า 300 ราย
สำหรับอาชีพที่ได้รับผลกระทบโดนตรงคงไม่พ้นวินจักยานยนต์รับจ้างที่มักจะปล่อยปะละเลยไม่ยอมให้ผู้โดยสารสวมหมวกนิรภัย กลายเป็นอีกหนึ่งกลุ่มเป้าหมายที่ตำรวจต้องทำความเข้าใจและอธิบายข้อกฎหมาย ถึงกรณีที่ไม่ยอมให้ผู้โดยสารสวมหมวกนิรภัย จะต้องรับผิดแทน
สำหรับพื้นที่สน.สายไหม ได้รับนโยบายจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลให้เป็น สน.ต้นแบบเรื่องการจราจร โดยวางเป้าหมายทำให้ถนนหลักทุกเส้นทางในพื้นที่ ขับขี่ปลอดภัย สวมหมวกนิรภัย 100 % โดยเน้นไปในการประชาสัมพันธ์ จับกุมขณะปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวก พบผู้ไม่สวมหมวกจับปรับทันที
