สัมผัสรสชาติโอมากาเสะแบบดั้งเดิม ที่ถูกรังสรรค์อย่างพิถีพิถันเพื่อคนไทยโดยเฉพาะ ด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศส่งตรงจากญี่ปุ่น ที่ Ichika Omakase
อา~ ในที่สุดก็ถึงวันหยุดซะที หลังจากปั่นงานมาทั้งอาทิตย์จนร่างแทบแหลก แซนด์ก็ขอฟื้นฟูร่างกายด้วยการพาตัวเองออกไปกินร้านซูชิคุณภาพพรีเมียมสักวันแล้วกันนะคะ แอบได้ยินมาว่าในซอยสุขุมวิท 18 มีร้านซูชิโอมากาเสะเปิดใหม่ด้วย น่าสนใจขนาดนี้ แซนด์ไม่พลาดแน่นอนค่ะ!
สำหรับเพื่อน ๆ ที่ยังไม่ทราบ “โอมากาเสะ (Omakase)” คือ เมนูตามใจเชฟ หรือการยกให้เชฟเป็นผู้คัดสรรวัตถุดิบและเมนูอาหารให้ โดยคำนึงถึงฤดูกาลและความชอบของลูกค้าเป็นสำคัญค่ะ ร้านที่แซนด์พามาในวันนี้ชื่อว่า Ichika Omakase คำว่า Ichika มาจากคำว่า Ichi ที่แปลว่า หนึ่ง รวมกับคำว่า Hana ที่แปลว่าดอกไม้ค่ะ เมื่อรวมกันจะสามารถอ่านได้ทั้ง Ichihana หรือ Ichika เลย
Ichika Omakase เป็นร้านโอมากาเสะแบบดั้งเดิม ทางเชฟจะครีเอตเมนูและท็อปปิงที่หลากหลาย ไม่ซ้ำใครและใช้วัตถุดิบส่งตรงจากญี่ปุ่นเลย ภายในร้านจะตกแต่งในโทนสีอ่อน ดูอบอุ่น มีเคาน์เตอร์บาร์ให้ลูกค้าเห็นขั้นตอนการปรุงอาหารของเชฟกันสด ๆ และมีที่นั่งเพียงแค่ 12 ที่เท่านั้น ถ้าเพื่อน ๆ สนใจก็อย่าลืมสำรองที่นั่งล่วงหน้าก่อนน้า
ความพิเศษอีกอย่าง คือ คอร์สของที่นี่จะตั้งเป็นชื่อสายพันธุ์ของดอกซากุระค่ะ โดยไล่ลำดับชื่อสายพันธุ์ตามราคาของแต่ละคอร์สค่ะ ยิ่งเป็นคอร์สที่ราคาสูง ก็จะเป็นชื่อซากุระพันธุ์หายากมากขึ้นนั่นเอง สำหรับคอร์สที่แซนด์เลือกในวันนี้ คือคอร์ส Fugenzo (4,700 บาท)
มาเริ่มกันที่จานแรก “Maguro Kombu Maki” จานเรียกน้ำย่อยเบา ๆ ที่ช่วยเปิดประสาทการรับรสได้ดีมาก ๆ จานนี้จะมีมากุโรสับละเอียด อะโวคาโด ดอกขิง และวาซาบิดอง ด้านนอกห่อด้วยสาหร่ายคอมบุ ราดด้วยซอสวาซาบิโชยุเดรสซิง เป็นเมนูที่มีรสหลากหลายมาก ๆ ทั้งความหวานจากเนื้อปลา รสเค็มจากซอส และความหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของวาซาบิ ถัดมาคือ “Kampachi Wine Pon Yaki” ปลาคัมปาจิย่างกับไวน์ในสไตล์ญี่ปุ่น เสิร์ฟคู่กับหน่อไม้ฝรั่ง เป็นจานที่รสชาติเข้มข้นใช้ได้เลย
ตามมาติด ๆ กับ “Shimaaji Uzusukuri” ซาชิมิปลาชิมะอาจิ เนื้อปลาสด กรอบ ได้รสหวานนิด ๆ เข้ากับรสชาติของโชยุได้ดี ต่อด้วย “Ebi Sembea VS. Ankimo Miso Soup” ซุปตับปลารสเข้มข้น ได้รสสัมผัสของตับปลาเต็ม ๆ ทานคู่กับแครกเกอร์กรอบที่ทำจากเนื้อกุ้ง
เข้าสู่ช่วงซูชิของทางร้านกันบ้าง จานแรกเป็น “Shima Aji” ซูชิปลาเนื้อขาวหวานนุ่มชุ่มลิ้น สัมผัสได้ถึงความสดเต็ม ๆ ตามด้วย “Hamachi” ปลาหางเหลืองหวาน ๆ นุ่ม ๆ โรยหน้าด้วยเปลือกส้มยูซุเปรี้ยว ๆ
ต่อกันที่ “Kinmedai” ปลาคินเมะได ปลาหายากเนื้อนุ่ม ๆ ท็อปปิงด้วยต้นหอมญี่ปุ่น เพิ่มความหอมและรสสัมผัสให้ตัวปลา จานนี้เชฟแอบเบิร์นด้านบนให้เล็กน้อย ขอบอกว่าหอมมาก ๆ เลย! และ “Taraba Kani” เนื้อปูทาราบะจากฮอกไกโด เนื้อแน่น ชิ้นโต ท็อปปิงด้านบนด้วยบ๊วย ได้รสหวาน ๆ เปรี้ยว ๆ
จานต่อมา คือ “Hotate” หอยเชลล์สด ๆ นุ่ม ๆ หวานลิ้น ท็อปด้วยสาหร่ายคอมบุรสเค็ม ความหวานของหอยเชลล์เข้ากับท็อปปิงได้ดีมาก เป็นความหวานนุ่มที่ไม่อยากให้หายไปเลยค่ะ เพิ่มความเข้มข้นกันอีกนิดกับ “Maguro Tsuke” ฮงมากุโรส่วนเนื้อแดง เนื้อส่วนนี้ ทางร้านหมักไว้ถึง 3 วันเลยทีเดียว เพื่อให้เอ็นของปลาไม่เหนียวและได้รสชาติอูมามิที่แท้จริง
มาถึงไฮไลต์เด็ดที่แซนด์รอคอย “Otoro” ฮงมากุโรส่วนท้อง เนื้อโอโทโร่ของทางร้านถูกหมักไว้นานถึง 5 วัน ได้รสอูมามิเต็ม ๆ เนื้อปลามีมันแทรกอย่างเต็มเปี่ยม นุ่ม ละลายในปาก ปิดท้ายด้วย “Uni” ซูชิอูนิสดใส่มาในถ้วยขนาดเล็ก ท็อปปิงด้วยวาซาบิ ได้รสหวาน ๆ มัน ๆ เป็นการปิดมื้ออย่างสวยงามเลยค่ะ แอบกระซิบว่า ใครที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วอยากลองเมนูอูนิของทางร้าน ต้องสำรองที่นั่งก่อนล่วงหน้าด้วยนะคะ เพราะถ้าซื้อมาพักไว้นานเกินไป อูนิจะเสียคุณภาพได้ ซึ่งเชฟบอกว่าเรื่องนี้ยอมไม่ได้แน่นอน!
เป็นการเดินทางที่รวดเร็วและฟินเหลือเกินค่ะ สำหรับมื้อโอมากาเสะในวันนี้ สาวกปลาดิบคนไหนอยากลองโอมากาเสะชั้นเลิศแบบแซนด์ก็ตามมาที่ Ichika Omakase ได้เลย ทางร้านเปิดเป็นมื้อกลางวันและมื้อเย็น โดยมื้อกลางวันเริ่มที่ 11.00 - 14.00 น. มี 3 ราคาคือ 1,700 บาท, 2,700 บาท และ 3,700 บาท ส่วนมื้อเย็นเริ่มที่ 3,700 บาท, 4,700 บาท, 6,700 บาท และ 9,700 บาท ซึ่ง 2 คอร์สหลัง ทางร้านแจ้งว่า ต้องสำรองที่นั่งก่อนนะคะ เพื่อที่ทางร้านจะได้คัดสรรวัตถุดิบสุดพิเศษจากญี่ปุ่นมาได้ทันเวลาค่ะ แต่รับรองได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นคอร์สไหน ทุกคนก็ฟินเหมือนแซนด์แน่นอน!
การเดินทาง
นั่ง BTS มาลงสถานีอโศก แล้วเดินต่อมาถึงซอยสุขุมวิท 18 เดินเข้าซอยไปไม่ลึกมาก จะเจอโรงแรม Rembrandt อยู่ทางซ้าย ร้าน Ichika Omakase จะตั้งอยู่บนชั้น 2 ของโรงแรม Rembrandt ค่ะ
