"ศรีวราห์" ชี้แม้ผลดีเอ็นเอ เอาผิด 'รองผู้การฯ' พา 'ยิ่งลักษณ์' หนีไม่ได้ แต่ก็ยังมีพยานแวดล้อมอื่น ที่ต้องพิสูจน์ต่อ ขณะที่ "ภาณุรัตน์" เตรียมสรุปผลสอบเท็จจริง ยื่น รักษาการ น.1 ตรวจสอบกรณี ผิดวินัยร้ายแรง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวย้ำว่า ในส่วนของผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล กรณีไม่เข้าฟังการอ่านคำพิพากษาในคดีจำนำข้าว เทียบเคียงกับ ดีเอ็นเอ ตัวอย่างในรถยนต์คัมรี่ ทาง พฐ.ได้รายงานผลให้ทราบแล้ว โดยไม่สามารถตรวจพิสูจน์ยืนยันได้ เนื่องจากมีการปนเปื้อนจำนวนมาก ทั้งนี้ จึงยังไม่มีหลักฐานเอาผิดคดีอาญากับ พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ รองผบก.น.5 (ช่วยราชการ ศปก.น.5) ในตอนนี้ได้
แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าการตรวจพิสูจน์จะสิ้นสุด เนื่องจากดีเอ็นเอ เป็นประจักษ์พยานอย่างหนึ่ง แต่ก็ยังมีพยานแวดล้อมอื่นๆ ที่จะต้องดำเนินการตรวจพิสูจน์ต่อไปอีก ซึ่งมีขั้นตอนตามกระบวนการอยู่แล้วแต่จะเป็นอะไรนั้น ไม่สามารถเปิดเผยได้ ยอมรับว่า สำหรับการขอให้ตำรวจสากล ดำเนินการออกหมายแดงเพื่อติดตามตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ นั้นยังไม่คืบ แต่ศาลได้ออกหมายจับในข้อหา เข้าออกราชอาณาจักรไม่ตามช่องทางที่กำหนดแล้ว
ด้าน พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เปิดเผย กระบวนการภายหลังจากแจ้งข้อกล่าวหา ความผิดทางวินัย กับพ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ปฏิบัติราชการ ศปก.น.5 ว่า หลังจากนี้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชุดนี้ จะสรุปสำนวนความผิดทางวินัย เสนอต่อ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้พิจารณาตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีก 1 ชุด เพื่อสอบสวนความผิดวินัย ว่า พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ มีความผิดตามที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชี้มูลหรือไม่ รวมทั้งพิจารณาบทลงโทษด้วย ซึ่งจะต้องรอ ว่า พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ จะปฏิเสธ หรือรับทราบตามข้อกล่าวหา เพราะเป็นสิทธิ์ที่จะพึงกระทำได้ ทั้งนี้ หากพิจารณาแล้ว มีความผิดวินัยร้ายแรง โทษสูงสุดคือให้ออกจากราชการ แต่หากไม่ผิดวินัยร้ายแรง บทลงโทษ อาทิ ตัดเงินเดือนราชการ
ขณะ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยกรณี พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ ที่เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ความผิดวินัยร้ายแรง ว่าขณะนี้ ต้องรอการส่งผลการสอบสวน ที่ยังไม่เสนอมา แต่ส่วนตัวทราบว่า ในส่วนคดีอาญายังไม่พบการกระทำผิด ซึ่งประเด็นคดีอาญา รอการสอบสวนของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เกี่ยวกับผลทางนิติวิทยาศาสตร์ เรื่องดีเอ็นเอ ในรถยนต์และป้ายทะเบียนที่สวมใส่รถยนต์โตโยต้า คัมรี่
สำหรับผลของคดีวินัย จะขึ้นอยู่กับคณะกรรมการคดีทางวินัย อัตราโทษมีหลายอย่างตั้งแต่ตัดเงินเดือน กักขัง กักยาม ปลดออก และให้ออก ส่วนในคดีอาญา ไม่สามารถดำเนินคดีกับ พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ ได้ เนื่องจาก ผลการตรวจดีเอ็นเอ ในรถโตโยต้า คัมรี่ เทียบกับหลักฐานที่เก็บได้จากบ้านพักของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ยังไม่ตรงกัน ซึ่งกองพิสูจน์หลักฐานจะมีการตรวจซ้ำอีก เพื่อให้เกิดความชัดเจน เนื่องจากภายในรถมีสารปนเปื้อนจำนวนมาก
