โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

รวบหนุ่มฉกมือถือผู้โดยสารในสุวรรณภูมิ ตร.ล็อกตัวขณะงีบหลับรอเหยื่อ (คลิป)

Khaosod

เผยแพร่ 23 ก.ย 2560 เวลา 12.23 น.
Untitled-1

เมื่อวันที่ 23 ก.ย. เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฎิบัติการพิเศษ ทอท.ร่วมกับฝ่ายสืบสวนสภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จับกุมตัวนายโชคเจริญ แซ่อึ้ง อายุ 26 ปี ขณะกำลังนอนพักผ่อนรอเหยื่ออยู่ที่เก้าอี้นั่งโดยสารชั้น 1 ประตู 3 ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อ.บางพลี สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหารายนี้มาสอบปากคำที่สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยนำภาพวงจรปิดซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญ ที่สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ที่ผู้ต้องหารายนี้ลงมือก่อเหตุลักโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง โน็ต 3 ของผู้เสียหายหญิงชาวไทย ไปเมื่อช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. ของวันที่ 19 ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งผู้เสียหายระบุว่าซื้อโทรศัพท์ดังกล่าวมาในราคา 18,000 บาท

ร.ต.อ.สิทธิพงษ์ ปานไทยสงค์ รองสารวัตรสอบสวนสภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เจ้าของคดี พาผู้เสียหายเข้าตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของทางสนามบิน จนกระทั่งพบชายต้องสงสัย ก็คือผู้ต้องหารายนี้ เป็นคนลงมือก่อเหตุ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายศาลจังหวัดสมุทรปราการติดตามจับกุม จนกระทั่งเจ้าหน้าที่พบชายต้องสงสัยคล้ายกับบุคคลที่เคยก่อเหตุ ปรากฏในภาพวงจรปิดของสนามบินขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวเอาไว้ได้

ขณะที่ผู้ต้องหารายนี้หลังจากถูกจับกุมและเจ้าหน้าที่นำภาพวงจรปิดหลักฐานมาให้ดู ก็รับสารภาพว่าชายในภาพวงจรปิดเป็นคนเดียวกับตนเองจริง โดยสารภาพว่าลงมือก่อเหตุลักโทรศัพท์ของผู้เสียหายไปจริง และนำไปขายที่ริมถนนใกล้ห้างชื่อดังในกทม. ในราคา 700 บาท ส่วนเงินที่ได้ก็นำมาใช้จ่ายซื้ออาหารรับประทาน เนื่องจากตนเองไม่มีที่พักและไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง แค่รับจ้างขายสินค้าบนรถไฟกินเปอร์เซ็นต์เท่านั้น จึงไม่พอใช้จ่าย จึงตัดสินใจลงมือก่อเหตุที่ผ่านมา และตนเองยอมรับว่าชะล่าใจ ไม่คาดคิดว่าจะถูกจับกุม จึงเดินทางมานอนพักผ่อนบริเวณดังกล่าว เพื่อเตรียมก่อเหตุซ้ำกับเหยื่อที่เผลอนำเอาโทรศัพท์มาชาร์จไว้ แต่ยังไม่ทันได้เหยื่อก็มาถูกจับกุมตัวเสียก่อน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ข้อหาลักทรัพย์ในท่าอากาศยาน ในเวลากลางคืน ตามหมายจับที่ 785/2560 ศาลจังหวัดสมุทรปราการ ลงวันที่ 19 ก.ย.60 ซึ่งจะมีโทษจำคุก 1 ปี ถึง 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000-10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0