เสือดำถูกยิง 1 ตัว เป็นความสูญเสียของคนไทย ประเมินค่าเท่าไหร่ดี?
จากเหตุที่อัยการสั่งให้สอบนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดพญาเสือ เพิ่มเติม ถึงกรณีนายเปรมชัย กรรณสูต เข้าไปในพื้นที่เขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จนถูกดำเนินคดีนั้น
อัยการได้สั่งให้สอบเพิ่มในประเด็นความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อทรัพย์สินทรัพยากรธรรมชาติ
นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จึงได้มอบหมายให้นายชัยวัฒน์รวบรวมหลักฐานที่สามารถคิดคำนวน ความเสียหายทางแพ่งที่เกิดจาก ผู้ต้องหาเข้าไปล่าสัตว์ทำให้ สัตว์ป่าโดยเฉพาะเสือดำและไก่ฟ้าหลังเทาตายไป
ทั้งนี้เพื่อใช้ข้อมูลประกอบในสำนวนคดีเสือดำ และเพื่อฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง โดยต้องถือว่า เป็นการฟ้องแพ่งจากเหตุความเสียหายด้านสัตว์ป่าเป็นครั้งแรกของกรมอุทยานฯ
ส่วนการประเมินค่าเสียหายทางแพ่ง ในคดีนายเปรมชัย กรรณสูต พร้อมพวกล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก มีรายละเอียดดังนี้
- เสือดำ จำนวน 1 ตัว อายุประมาณ 5 ปี เป็นเสือดำ ชนิดย่อย เสือดำอินโดจีน หรือ Indochinese leopard มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Panthera pardus delacouri เป็นสัตว์ป่าที่หายากและใกล้จะสูญพันธุ์ มีสถานภาพทางกฎหมายเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ลำดับที่ 182 ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 และเป็นสัตว์ป่าบัญชีหมายเลข 1 ของอนุสัญญาไซเตส คิดค่าเสียหายตัวละ 3,012,000 บาท
- ไก่ฟ้าหลังเทาธรรมดา จำนวน 1 ตัว เป็นตัวเต็มวัย มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Lophura nycthemera เป็นสัตว์ป่าที่พบเห็นได้บ่อย สถานภาพทางกฎหมายเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองพวกนก ลำดับที่ 6 และเป็นชนิดที่อนุญาตให้เพาะพันธุ์ได้ ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 คิดค่าเสียหายตัวละ 22,612 บาท
ค่าเสียหายทั้งหมดรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,034,612.00 บาท (สามล้านสามหมื่นสี่พันหกร้อยสิบสองบาทถ้วน)
แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นนี้เป็นเพียง. ค่าความเสียหายด้านสัตว์ป่าเท่านั้น ยังมิได้คิดความเสียหายทั้งระบบ คือ ระบบนิเวศน์สัตว์ป่าและระบบนิเวศน์ของพืช ซึ่งมีความสัมพันธ์กัน ซึ่งเรื่องความสัมพันธ์ของสัตว์ป่ากับพันธุ์พืชถือเป็นการสูญเสียที่นับค่าไม่ได้ และไม่สามารถคำนวณเป็นเงินได้