โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ยาหม่องถ้วยทอง รายได้เท่าไร

ลงทุนแมน

อัพเดต 13 พ.ย. 2560 เวลา 22.00 น. • เผยแพร่ 14 พ.ย. 2560 เวลา 11.40 น. • ลงทุนแมน

ยาหม่องถ้วยทอง รายได้เท่าไร / โดย เพจลงทุนแมน
“วิงเวียนศีรษะ ทาถู ทาถู เคล็ด ขัดยอก ทาถู ทาถู แมลงสัตว์กัดต่อย ทาถู ทาถู ยาหม่องตราถ้วยทอง มิตรคู่เรือน เพื่อนคู่ตัว”
สโลแกนนี้ เชื่อว่าต้องเคยผ่านหูผ่านตา หลายคนมาตั้งแต่เด็ก
ยาหม่องตราถ้วยทองอยู่คู่กับเรามาไม่น้อยกว่า 60 ปี
วันนี้เรามาดูกันว่า ยาหม่องตราถ้วยทองมีที่มาที่ไปยังไงกัน

จุดเริ่มต้นของธุรกิจนั้นคุณเมธัส ลีลารัศมี ผู้บริหารซึ่งเป็นทายาทรุ่น 3 ของถ้วยทองโอสถเล่าว่า ยาหม่องตราถ้วยทองเกิดขึ้นมาในช่วงสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีคุณปู่ซึ่งเป็นชาวจีนเข้ามาทำมาหากิน โดยขายของชำแถวย่านตลาดพลูซึ่งในเวลานั้นขายดีมาก

ต่อมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้เกิดโรคมาลาเรียระบาดอย่างหนัก ทำให้คุณปู่และญาติๆ ช่วยกันทำยาควินินน้ำ (หรือยาตัดไข้) ซึ่งสูตรนี้ทางปู่ของเขารู้มาจากหมอชาวจีน เพื่อมาขายให้คนแถวนั้นนำไปรักษาโรคนี้ ปรากฏว่าได้ผลดีมาก จนเกิดการบอกต่อกันอย่างกว้างขวาง และทำให้มีลูกค้าหลายคนมาขอซื้อ

หลังจากมีการพัฒนาปรับปรุงสูตรและสีอยู่นาน จนในที่สุด ปี 2487 “ยาหม่องตราถ้วยทอง” จึงได้เริ่มวางตลาดและทำการสร้างแบรนด์อย่างจริงจัง

ในยุคแรก กลยุทธ์การตลาดของยาหม่องตราถ้วยทองนั้น จะเน้นไปที่กลุ่มคนที่มาดูหนังกลางแปลงเนื่องจากสมัยก่อน คนส่วนใหญ่เวลามานั่งดูหนังกลางแปลงจะนั่งตามพื้นหญ้า พื้นดิน ทำให้มีแมลงหรือสัตว์มีพิษ กัดต่อย รวมไปถึงปวดเมื่อยเวลานั่งนานๆ บริษัทจึงได้ใช้โอกาสนี้สร้างวลีในตำนานอย่างที่เราทราบๆ กันมา

ปัจจุบัน ยาหม่องตราถ้วยทองมีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 70% นอกจากนี้ ยังมีจำหน่ายไปกว่า 10 ประเทศทั่วโลกโดยเฉพาะในประเทศที่มีคนไทยอาศัยอยู่เยอะ เช่น อเมริกา อังกฤษ และอีกหลายประเทศในยุโรปและเอเซีย

สินค้าภายใต้แบรนด์ “ถ้วยทอง” นอกเหนือจากยาหม่องแล้ว ยังมีสินค้าตัวอื่นๆ เช่น ยาบรรเทาอาการปวดฟัน พาราเซตามอล แป้งเย็น และโซดามิ้นท์ เป็นต้น

รายได้และกำไรของ บริษัท ถ้วยทองโอสถ จำกัด
ปี 2557 รายได้ 207 ล้านบาท กำไร 28 ล้านบาท
ปี 2558 รายได้ 257 ล้านบาท กำไร 47 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 275 ล้านบาท กำไร 33 ล้านบาท

คุณเมธัสบอกว่า ไม่ว่าลูกค้าจะเป็นใคร ก็ล้วนต้องการสินค้าที่มีสรรพคุณดี รักษาอาการได้จริงตามที่โฆษณา ในบางประเทศนั้น แม้จะไม่เคยไปทำการตลาดหรือโฆษณาแต่กลับมี order จากการบอกปากต่อปากของลูกค้าด้วยกัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ถ้าเรามีสินค้าที่ดี มีคุณภาพ สินค้าก็จะสามารถขายได้ด้วยตัวของมันเอง

ลงทุนแมนเคยสงสัยเหมือนกันว่า แล้วคำว่า “ยาหม่อง” มีที่มาที่ไปยังไง….

มีเรื่องเล่าว่า ในอดีตนั้น สมัยที่พม่าตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ ทำให้มียาที่มีคุณภาพของอังกฤษเข้ามาขายเยอะ คนไทยจึงนิยมใช้ยาที่มาจากพม่าเนื่องจาก สามารถแก้ได้สารพัดโรค เลยมีบางคนเรียกยาที่มาจากพม่าว่า ยามาจากหม่อง เรียกไปเรียกมาจึงกลายเป็น “ยาหม่อง” อย่างที่ได้ยินทุกวันนี้นั่นเอง..
Source
-https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87
-http://www.allmagazine.com/ColumnDetail/allColumDetail/tabid/106/articleType/ArticleView/articleId/5155/categoryId/79/–6-.aspx
-http://www.goldencup.co.th/product_cup.php
-http://www.ditp.go.th/contents_attach/94003/94003.pdf
-https://www.youtube.com/watch?v=0TcMlRePdmA

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0