โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

มาร์กเซย: รื่นรมย์ หลงเสน่ห์ฝรั่งเศสตอนใต้ นี่ล่ะชีวิตที่ดีที่แท้จริง

THE STANDARD

อัพเดต 16 พ.ย. 2560 เวลา 08.56 น. • เผยแพร่ 17 พ.ย. 2560 เวลา 17.00 น. • thestandard.co
มาร์กเซย: รื่นรมย์ หลงเสน่ห์ฝรั่งเศสตอนใต้ นี่ล่ะชีวิตที่ดีที่แท้จริง
มาร์กเซย: รื่นรมย์ หลงเสน่ห์ฝรั่งเศสตอนใต้ นี่ล่ะชีวิตที่ดีที่แท้จริง

     ก่อนเครื่องบินโบอิง 787-8 Dreamliner จะร่อนลงสู่สนามบินนีซที่อยู่ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เราเลือกดูภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่โผล่ขึ้นมาในลิสต์แนะนำ A Good Life (2006) ภาพยนตร์ฝีมือผู้กำกับ ริดลีย์ สก็อตต์ นำแสดงโดย รัสเซล โครว์ ว่าด้วยเรื่องของนายธนาคารผู้มีชีวิตยุ่งเหยิง บินจากอังกฤษกลับไปจัดการทรัพย์สมบัติของลุงในโพรวองซ์ การกลับบ้านครั้งสำคัญที่ทำให้เขาพบกับความสุข และความหมายของชีวิตที่แท้จริง

     หนังนำเสนอความแตกต่างระหว่างชีวิตที่รีบเร่งของคนเมืองกับชีวิตที่ละเมียดละไมของโพรวองซ์ และไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ ว่า ภาพฝันที่เราได้เห็นใน A Good Life จะเกิดขึ้นและมีอยู่จริงในระหว่างการเดินทางท่องเมืองมาร์กเซยและฝรั่งเศสทางตอนใต้ในทริปนี้

     THE STANDARD ได้รับเชิญไปร่วมเปิดเส้นทางบินใหม่จากกรุงเทพฯ-นีซ ประเทศฝรั่งเศส ของสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส เป็นการเปิดเส้นทางใหม่ที่ทำให้เรา ได้เปิดรับประสบการณ์ใหม่ไปพร้อมกัน

 

 

MARSEILLE ATTRACTIONS

     มาร์กเซยเป็นเมืองท่าเก่าแก่ที่สุดของฝรั่งเศส สะสมประวัติศาสตร์มายาวนานกว่า 2,600 ปี ทั้งยังเป็นเมืองขนาดใหญ่ลำดับที่ 2 ของฝรั่งเศสรองจากปารีส ตัวเมืองเก่าของมาร์กเซยอยู่ติดกับทะเล ย่านท่าเรือเก่าหรือที่เรียกว่า Vieux Port เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักเดินทางทุกชาติทุกภาษาเดินทางมาถึงต่างต้องตกหลุมรัก

     ด้วยความที่เป็นเมืองแดดออก 300 วันต่อปี มาร์กเซยจึงมีบรรยากาศน่าเที่ยวตลอดเวลา แดดอุ่นๆ สาดกระทบน้ำบริเวณท่าเรือ ไล่สีด้วยเรือลำเล็กลำน้อยที่จอดเทียบท่าอยู่เต็มไปหมด ผู้คนใช้ชีวิตอย่างคึกคักในบริเวณนี้ นับจากครั้งแรกที่ชาวกรีกเดินทางมาตั้งรกรากราว 600 ปีก่อนคริสตกาล

     ลักษณะพื้นที่บริเวณนั้นเป็นเนินเขาสูงต่ำ แล้วลาดลงมาเจอท่าเรือและอ่าวเล็กๆ ที่เปิดสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน นั่นทำให้เวลามองจากมหาวิหารนอเทรอดาม เดอ ลา การ์ด ที่อยู่จุดสูงสุดของเมือง จึงดูคล้ายกับพระแม่มารีที่ประทับอยู่บนยอดโดมของมหาวิหาร กำลังทำหน้าที่ปกปักรักษาเมืองมาร์กเซยให้สงบสันติ

 

 

The Church of Notre-Dame de la Garde

     ว่ากันว่ามหาวิหารแห่งนี้ศักดิ์สิทธิ์เรื่องการขอพร และถ้าอยากให้สัมฤทธิ์ผลโดยง่าย ชาวเมืองเชื่อกันว่า การเดินเท้าขึ้นไปสักการะจะขลังกว่า (น่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 45 นาที) เมื่อก้าวเท้าเข้าไปในมหาวิหาร ทั้งสองฝั่งของโถงกลาง จะเต็มไปด้วยป้ายหินสลักชื่อพร้อมคำขอบคุณ บางคนนำสิ่งของมาสักการะแทน เราจึงจะได้เห็นภาพเขียนเก่าแก่ ของตกแต่งอย่างเรือไม้แกะสลัก รวมทั้งของมีค่าต่างๆ ประดับอยู่ทั่ว

     มหาวิหารนอเทรอดาม เดอ ลา การ์ด เป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอไบเซนไทน์ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 บนยอดโดมมีรูปปั้นพระแม่มารีและพระบุตร สร้างขึ้นจากทองแดงและทองคำเปลว ภายในสวยงามเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเพดานที่เต็มไปด้วยลวดลายสุดวิจิตรบรรจง ข้อสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยว นี่คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ จึงควรใช้เวลาอย่างเงียบสงบเพื่อแสดงความเคารพ

     วิวระดับ to die for 360 องศา มองเห็นได้รอบเมืองมาร์กเซยจากบริเวณมหาวิหารนอเทรอดาม เดอ ลา การ์ดคือที่สุดของหัวใจ เราจะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของเมืองที่ไม่ได้มีตึกสูงแบบเมืองทันสมัย แต่เต็มไปด้วยบ้านเรือนหลังคากระเบื้องสีคุมโทนไปจนสุดลูกหูลูกตา

 

 

MUCEM

     MUCEM (Museum of European and Mediterranean Civilizations) นี่คือพิพิธภัณฑ์แห่งชาติของฝรั่งเศสหลังแรกที่ตั้งอยู่นอกกรุงปารีส ตัวอาคารรูปทรงสี่เหลี่ยมที่คลุมด้วยโครงคอนกรีตทำเป็นลูกไม้ และยังทำทางเดินลอยฟ้าเชื่อม

     ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์กับป้อมปราการเก่า Fort Saint Jean ที่อยู่ใกล้ๆ กัน ทั้งยังมีทางเชื่อมต่อไปยังโบสถ์ Saint Laurent และเดินต่อไปถึง Panier Area ที่เป็นย่านเก่าแก่อีกแห่งของเมือง Fort Saint Jean เป็นป้อมปราการที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1660 (รัชสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14) สร้างขึ้นพร้อมๆ กับ Fort Saint Nicolas ที่อยู่คนละฝั่งทางเข้าท่าเรือ ป้อมทั้ง 2 แห่งนี้ใช้เป็นปราการด่านสำคัญก่อนเข้าสู่เมืองมาร์กเซยทางทะเล ความน่าสนใจมากกว่าการเห็นผู้คนมานั่งเล่น อ่านหนังสือ ชื่นชมบรรยากาศก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ป้อมปราการแห่งนี้ได้ผ่านประวัติศาสตร์อันยาวนาน ทั้งเคยใช้เป็นเรือนจำชั่วคราวในช่วงปฏิวัติฝรั่งเศส เคยใช้เป็นฐาน สำหรับกองทัพเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ในช่วงปี ค.ศ. 1967-1971 และกลายเป็นส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ MUCEM อย่างเช่นในปัจจุบัน

 

Tips

     MUCEM ปิดทุกวันอังคาร ส่วนวันศุกร์จะเป็นวันที่เปิดทำการถึง 4 ทุ่ม สำหรับนักเดินทางเวลาน้อย เลือกมาเที่ยวชมในวันศุกร์ก็ดูจะประหยัดเวลาชมเมืองช่วงกลางวันไปได้เยอะ

 

 

Panier area

     Saint Laurant อยู่ตรงข้ามกับ Fort Saint Jean เป็นโบสถ์ที่สร้างจากหินสีชมพูแบบเดียวกับที่นำมาสร้างป้อมปราการ Saint Jean โดยมีงานศิลปะจากนักท่องเท่ียว ตกแต่งเสาไฟฟ้าด้วยสติกเกอร์ผ่านเข้าพิพิธภัณฑ์ จังหวะที่เห็นรอยปะทั่วทั้งเสา มือก็ออโตเมติกดึงสติกเกอร์ที่ติดเสื้อไปร่วมสร้างงานศิลปะกับเขาด้วย

     จากโบสถ์มีถนนด้านข้างที่พาเดินไปยังถนน Panier ย่านเมืองเก่าที่คู่ควรแก่การเดินชมเมืองอีกแห่ง Panierในภาษาฝรั่งเศสแปลว่า ตะกร้า และเคยเป็นตลาดในการจับจ่ายซื้อของมาก่อน จนมาได้รับการบูรณะครั้งใหญ่หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2

 

 

     จนทุกวันนี้ก็กลายเป็นย่านฮิปที่เต็มไปด้วยร้านรวง แกลเลอรี และสตรีทอาร์ตอยู่ทั่วตรอกซอกซอย สองข้างทาง ถ้าใครเคยไปมองมาร์ตที่ปารีส ที่นี่ก็ได้รับการเรียกว่าเป็น ลิตเติ้ลมองมาร์ตอยู่เหมือนกัน

     งานกราฟฟิตีคือสิ่งที่พบเห็นได้อยู่เป็นระยะ และพบเห็นได้มากในย่าน Panier นี่เอง แต่โปรดสังเกต! งานเพนต์ของศิลปินจะอยู่บนกระดาษอีกทีหนึ่ง เพื่อง่ายต่อการลอกออกจากผนังและไม่ทำให้ผนังหินปูนของอาคารอายุนับร้อยปีบริเวณนี้เสียหาย

 

 

Intercontinental Marseille – Hotel Dieu

     อาคารสำคัญตั้งแต่สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 18 โดยโลเกชันโรงแรมแห่งนี้อยู่บนเขาที่มองลงไปเห็นวิวท่าเรือมาร์กเซยทั้งยังเห็นภูเขาตรงข้ามอันเป็นที่ตั้งของมหาวิหารนอเทรอ-ดาม เดอ ลา การ์ด ทุกวันช่วงเช้าและเย็นเราจะได้ยินเสียงระฆังดังมาจากมหาวิหารเข้ากับบรรยากาศแสนสวยที่มองเห็นในสายตา

     แต่ดั้งเดิมอาคารหลังนี้เคยเป็นโรงพยาบาลมาก่อนเมื่อเปลี่ยนมาเป็นโรงแรม การปรับปรุงครั้งใหญ่จึงเกิดขึ้นซึ่งต้องยกย่องในจุดนี้ เพราะการปรับปรุงครั้งใหญ่นี้เกิดขึ้นบนพื้นฐานของการเคารพประวัติศาสตร์ที่เคยเกิดขึ้น เราจะเห็นโถงทางเดินที่เปิดช่องเพดานให้มองเห็นตัวอาคารการเลือกใช้หิน ผนัง และลวดลายบนเสาบางต้นก็เพื่อให้สอดคล้องกับสิ่งปลูกสร้างเดิมที่เคยมีอยู่ ในขณะเดียวกันบันไดวนด้านหนึ่งของอาคารยังคงความสวยงามในแบบดั้งเดิมไว้เหมือนกับครั้งแรกที่อาคารสร้างขึ้น

     ห้องพัก 172 ห้อง และ 22 ห้องสวีต แนะนำอย่างยิ่งว่าควรเลือกห้องที่มองเห็นท่าเรือและมีระเบียงส่วนตัว เพราะนี่คือรางวัลของชีวิตที่เติมเต็มความสุขได้ในทันที

 

 

Intercontinental Marseille – Hotel Dieu

1 Place Daviel – 13002 Marseille, France

T: +33 (0)4 13 42 42 42

www.intercontinental.com/marseille

 

 

Tips

     ไม่ไกลจากโรงแรมนัก มีร้านกึ่งโรงงานสบู่เก่าแก่ของเมืองชื่อว่า Grande Savonnerie สบู่ที่ทำจากน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ และยังคงวิธีการทำแบบดั้งเดิมตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ถ้าสนใจเวิร์กช็อปสามารถติดต่อล่วงหน้าได้ที่

Grande Savonnerie

36 Grand Rue, 13002 Marseille

T: +33 (0) 6 23 58 12 13

 

 

The Calanques

     การล่องเรือออกไปชมหมู่เกาะ 1-2 ชั่วโมง ก็เป็นโปรแกรมยอดนิยมของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะการไปยัง Calanques National Park ที่เราจะได้เห็นน้ำสีเทอร์ควอยส์ และช่องเขาหินปูนแคบๆ ที่พายเรือคายักเข้าไป บางแห่งมีชายหาดเล็กๆ ให้ลงไปเล่นน้ำใสแจ๋วได้ด้วย นอกจากนี้หมู่เกาะ Frioul และ If Castle ก็เป็นอีกสองจุดหมายที่ควรไปชม

 

LOCALANQUES

22 Rue de la Loge, 13002 Marseille

www.location-barques-marseille.com

 

Coastal Road

     อีกหนึ่งกิจกรรมน่าสนใจก็คือ การนั่งรถชมวิวมหาสมุทรจากถนนเลียบชายฝั่งยาว หรือที่เรียกกันว่าถนน Corniche du Président J.F. Kennedy เป็นถนนหลักในการเชื่อมต่อจากตัวเมืองไปยังชายหาดสวยๆ หมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่นอกเขตเมืองเก่า ฟุตปาธจัดเป็นทางให้เดินเล่น วิ่ง หรือนั่งเล่น ก็สามารถทำได้ เพราะเขาทำม้านั่งเลียบถนนไปตลอดทางจนกลายเป็นม้านั่งติดอันดับยาวที่สุดในโลกไปเลย

     ลักษณะสบายๆ และการชอบสนทนาของคนมาร์กเซยน่าจะคล้ายคนไทย ทั่วเมืองเราจะเห็นม้านั่งไว้สำหรับให้คนออกมานั่งชมเมืองแสนสวย นั่งสนทนากันยาวๆ นั่นเป็นความหมายเดียวกับคาเฟ่ที่มีให้เห็นอยู่เต็มไปหมด เวลาพบคนแปลกหน้า พวกเขาคุยกันสนิทสนมจนเราอาจไม่รู้ว่านี่คือการพบกันครั้งแรก ความสุขช่างเรียบง่ายอย่างไม่น่าเชื่อแค่ออกไปเจอเพื่อนที่คาเฟ่ ได้กินอาหารอร่อยๆ มองผู้คนผ่านไปมา บรรยากาศของเมืองแสนสวย ไม่ต้องคิดเครียดอะไรให้มากมาย นี่สิ A Good Life!

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0