นายสุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า การขยายการคิดคำนวณเงินสมทบรูปแบบใหม่เป็นไปตามอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของไทย หลังกฎหมายนี้ใช้มานานกว่า 27 ปี จึงไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพที่ปรับขึ้น โดยเฉพาะค่าแรงขั้นต่ำ ที่เพิ่มขึ้นเป็น 300 บาทหลายปีแล้ว จึงสมควรปรับเปลี่ยน จากเดิมที่เคยคิดคำนวณเงินสมทบจากฐานเงินเดือน 15,000 บาท เป็น 20,000 บาทโดยจะแบ่งการเก็บเงินสมบทเข้ากองทุนเป็น 3 ช่วง คือ
ผู้ที่มีเงินเดือนไม่ถึง 16,000 บาท ใช้ฐานคำนวณเดิม เก็บเงินเข้ากองทุน 750 บาท
เงินเดือน 16,000 แต่ไม่ถึง 20,000 บาท จะเก็บเงินสมทบเข้ากองทุน 800 บาท
ส่วนผู้ที่มีฐานเงินเดือน 20,000 ขึ้นไป เก็บเงินสมทบเข้ากอนทุน 1,000 บาท
ขณะนี้การรับฟังความคิดเห็นต่อการร่างกฎหมายฉบับใหม่ ครบตามกระบวนการแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คาดว่าจะใช้เวลาพิจารณาในช่วงปีหน้าเป็นต้นไป
ส่วนการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม และการใช้ประโยชน์จากกองทุนประกันสังคมว่าคุ้มค่าหรือไม่ โดยยืนยันว่า การเก็บเงินสมทบรูปแบบใหม่ จะส่งผลดีต่อประชาชน โดยเฉพาะการคำนวณเงิน ที่จะได้รับหากตกงาน หรือ ไม่มีงานทำ