โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ผู้บังคับการกองปราบปราม ยืนยันไม่ได้ยื้อคดีหวย 30 ล้านบาท

JS100

เผยแพร่ 20 ก.พ. 2561 เวลา 06.28 น. • JS100:จส.100
ผู้บังคับการกองปราบปราม ยืนยันไม่ได้ยื้อคดีหวย 30 ล้านบาท
ผู้บังคับการกองปราบปราม ยืนยันไม่ได้ยื้อคดีหวย 30 ล้านบาท

ความคืบหน้าการดำเนินคดีสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกรางวัลมูลค่า 30 ล้านบาท ระหว่างร้อยตำรวจโทจรูญ วิมูล และนายปรีชา ใคร่ครวญ ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี พลตำรวจตรี ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปราม ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจคณะทำงานเร่งตรวจสอบวัตถุพยาน และการสอบสวนพยานปากต่างๆ อย่างรัดกุมที่สุด ไม่ได้มีการดึงเวลาหรือยื้อจนเกิดความล่าช้า ซึ่งขณะนี้สิ่งที่ทำให้คดียังไม่สามารถหาข้อสรุป หรือดำเนินการออกหมายจับผู้ต้องหาได้ คือ วัตถุพยานที่เป็นคลิปเสียงจำนวนประมาณ 6-7 คลิป ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) สามารถกู้ข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือของผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีมาได้  ซึ่งหลายฝ่ายเกรงว่าคลิปเสียงจะไม่มีน้ำหนักในชั้นศาล จึงส่งคลิปเสียงทั้งหมดให้กองพิสูจน์หลักฐานดำเนินการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ เทียบเคียงเสียงบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อยืนยันว่าเสียงที่ปรากฏเป็นของบุคคลที่ถูกอ้างถึงจริง  ที่สำคัญคือ ต้องตรวจสอบให้ได้ว่าคลิปเสียงทั้งหมดไม่มีการตัดต่อหรือดัดแปลงภายหลังจากกู้มาจากโทรศัพท์มือถือ ซึ่งทางกองพิสูจน์หลักฐานยืนยันว่าจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ยังไม่สามารถระบุวันเวลาที่ตรวจสอบแล้วเสร็จได้  เพราะเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบอย่างละเอียด ไม่ให้เกิดข้อบกพร่อง หรือข้อโต้แย้งจากคู่กรณีทั้งสองฝ่ายและใช้ดำเนินคดีออกหมายจับได้ ส่วนอีกขั้นตอนหนึ่งที่ทำให้ยังไม่สามารถสรุปชี้ขาดคดี หรือดำเนินการออกหมายจับได้ คือ การสอบสวนพยาน ซึ่งตามข้อมูลที่พลตำรวจตรีชาญ วิมลศรี รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวน ระบุว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 5 กองปราบปรามลงไปสอบสวนพยานที่เกี่ยวข้องซึ่งเป็นพยานปากเก่า 7 ปาก ที่ระบุชื่อในสำนวนของตำรวจภูธรภาค 7 เพิ่มเติมนั้น ขณะนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดของข้อมูลดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 5 ได้ดำเนินการไปตามขั้นตอนไปแล้ว หลังจากนี้จะต้องมีการเรียกพยานมาสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งเป็นพยานปากใหม่ที่ยังไม่เคยถูกระบุชื่อลงในสำนวนของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 อีก 2 ปาก ส่วนรายละเอียดของพยานบุคคลทั้งสองขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้เนื่องจากจะมีผลต่อรูปคดี  นอกจากนี้ยังมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อีกหลายส่วนที่ยังต้องรอผลการสรุป เพื่อนำมาใช้พิสูจน์คำให้การของพยาน และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดว่าใครพูดไม่ตรงกับความเป็นจริงตามลำดับเหตุการณ์ ทั้งนี้ไม่อยากให้ผู้ที่ติดตามข่าวหรือติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจกดดันการทำงานของเจ้าหน้าที่ เพราะมีความจำเป็นต้องสืบหาข้อมูลอย่างละเอียด เพื่อไม่เกิดข้อโต้แย้งในภายหลังจากคู่กรณีทั้งสองฝ่าย … ผสข.ปภาดา พูลสุข แฟ้มภาพ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0