อธิบดี สถ.ออกโรงป้องรอง ผวจ.ขอนแก่น แทงหนังสือราชการพลาด ยันไม่มีเจตนาใช้คำ “ทำอย่างไรให้ประชาชนหายโง่” อ้างเป็นงานด่วนรับนายกฯมาประชุม ครม.สัญจร เลยไม่ดูให้รอบคอบ ชี้เป็นบทเรียน “ฉัตรชัย” กำชับผู้ว่าฯทั่วประเทศต้องรอบคอบมากขึ้น มทภ.2 ฮึ่มสั่งเช็กพฤติกรรมก๊วนที่ทำเอกสาร เชื่อโดนวางยา “สุชัย” ขอโทษประชาชน ยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ย้ำเกิดที่ขอนแก่น ไม่ดูถูกลูกอีสานด้วยกันแน่ “ศรีสุวรรณ” จี้ มท.ปลดออก
เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก หลังมีการแชร์เอกสารราชการหนังสือเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมการต้อนรับนายกรัฐมนตรีที่จะเดินทางมาประชุม ครม.สัญจร มีการถ้อยคำไม่เหมาะสมว่า “ทำอย่างไรให้ประชาชนหายโง่” ลงนามโดยนายสุชัย บุตรสาระ รอง ผวจ.ขอนแก่น ปฏิบัติราชการแทน ผวจ.ขอนแก่น ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 มี.ค. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) กระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่า วัตถุประสงค์การออกหนังสือดังกล่าว เพื่อเชิญทุกฝ่ายหารือเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้พ้นวงจร “โง่ จน เจ็บ” ซึ่งเป็นวงจรมานานในชีวิตคนไทยในชนบท โง่ คือความไม่รู้ ไม่รู้เท่าทัน รู้เท่าไม่ถึงการณ์ เจ็บ คือความบกพร่องด้านอนามัย และความจนยากไร้ เรื่องที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่คงทำหนังสือมาไม่รอบคอบ เพราะเป็นงานด่วน แต่จะโทษเขาก็ไม่ได้ ผู้บังคับบัญชาต้องรับผิดชอบด้วย
นายสุทธิพงษ์กล่าวอีกว่า ทราบดีว่านายสุชัยไม่มีเจตนา อยากวิงวอนให้อภัยกัน เพราะเชื่อว่าท่านมีเจตนาดีต่อประชาชน เห็นใจท่านทุกคนผิดพลาดกันได้ และยังเป็นคนอีสานคงไม่ดูถูกคนบ้านเดียวกันแน่นอน เมื่อวันที่ 17 มี.ค. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ถือโอกาสที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.หาดไทย เชิญผู้ว่าฯทั่วประเทศมาประชุมที่สำนักงานกรมบรรเทาและป้องกันสาธารณภัย (ปภ.) ปลัดมหาดไทยเน้นย้ำผู้ว่าฯไปกำชับผู้ใต้บังคับบัญชา รวมถึงตัวผู้ว่าฯเองด้วย จะพิมพ์หนังสืออะไรให้ดูให้ละเอียดรอบคอบ ระมัดระวัง สมัยนี้โลกโซเชียลรวดเร็ว ไม่อยากให้นำไปขยายหาผลประโยชน์ทางการเมือง ขอให้ดูเจตนาดีกว่าและได้มีการแก้ไขแล้ว
ขณะที่ พล.ท.ธรากร ธรรมวินทร แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ไม่ทราบว่าเอกสารดังกล่าวหลุดไปได้อย่างไร กำลังสอบถามนายสุชัยอยู่ อาจผิดพลาดทางเทคนิคหรือไม่ แต่มองว่าคำดังกล่าวไม่ดีเหมือนไปดูถูกคนในพื้นที่ เพิ่งเห็นเอกสารเมื่อวันที่ 17 มี.ค. ยอมรับว่าอาจกระทบบ้าง แต่เราต้องสร้างความเข้าใจต้องดูที่เจตนาของผู้กระทำ ต้องไปตรวจสอบกันว่าใครเป็นคนพิมพ์เอกสาร ใครร่างเอกสาร ใครเป็นคนตรวจ เพราะเอกสารออกมาทางนั้น ต้องดูคนเหล่านี้มีพฤติกรรมอย่างไร
“เชื่อว่ามีคนวางยารองผู้ว่าฯคนร่าง คนพิมพ์ คนตรวจเอกสาร น่าจะรู้ว่าคำว่า “โง่” ไม่เหมาะ ไม่ควร แล้วนำมาให้รองผู้ว่าฯ เซ็น และยังเป็นเรื่องเร่งด่วนเตรียมต้อนรับนายกฯ จึงไม่ได้ดูรายละเอียดเนื้อหา ก่อนจะเซ็นลงนามไป คนที่พูดก็พูดไม่หมด ไม่บอกประโยคสำคัญนั้น หากบอกหรือสอบถามว่าคำนี้เหมาะสมหรือไม่ เชื่อว่ารองผู้ว่าฯ ต้องดูและแก้ไขไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ ตอนนี้ให้ตรวจสอบกันอยู่ เจ้าหน้าที่ก็คุยกัน ส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัยเพื่อต้อนรับนายกฯ ที่จะมาประชุม ครม.สัญจร ที่ จ.ขอนแก่นนั้นไปตามปกติ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ขณะนี้พร้อมต้อนรับนายกรัฐมนตรี” พล.ท.ธรากรกล่าว
ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายสุชัย บุตรสาระ รอง ผวจ.ขอนแก่น และนายวรงค์ คลังเงิน ท้องถิ่นจังหวัดขอนแก่น ร่วมกันแถลงถึงกรณีดังกล่าวว่า นายสุชัยกล่าวว่า หนังสือดังกล่าวเป็นของจริง และได้ทำการแก้ไขหนังสือแล้ว โดยเป็นหนังสือที่อ้างถึงหนังสือเลขที่ 0023.1/7063 ลงนามเมื่อวันที่ 12 มี.ค.2561 ต้องขออภัยประชาชนทุกคนที่ทำให้เข้าใจผิด เนื่องจากวันที่รับหนังสือและลงนามในช่วงบ่ายวันที่ 9 มี.ค.2561 จากท้องถิ่นจังหวัดขอนแก่นซึ่งเป็นต้นเรื่อง ก็ได้ลงนามทันทีโดยไม่ได้ตรวจสอบ เพราะเห็นว่าเป็นหนังสือเรียกประชุมต่อเนื่อง ซึ่งมีเวลาเพียงวันเดียวในการประสานงานและส่งหนังสือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุม แต่ก่อนถึงวันประชุมมีผู้มาทักท้วงเรื่องข้อความในหนังสือดังกล่าวว่าไม่เหมาะสม จึงรีบแก้ไข และทำหนังสือฉบับใหม่แทน ส่งไปตามหน่วยงานต่างๆ ซึ่งกระบวนการแก้ไขหนังสือฉบับเดิมเป็นฉบับใหม่เสร็จสิ้นก่อนที่จะมีการเผยแพร่หนังสือฉบับเดิมในโลกออนไลน์ จนเป็นประเด็นขึ้นมา”
นายสุชัยกล่าวอีกว่า ต้องขอโทษประชาชนทุกคน หากข้อความดังกล่าวทำให้เกิดความไม่สบายใจ ขอยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ส่วนตัวไม่มีเจตนาคิดไม่ดี หรือทำสิ่งไม่ดีกับประชาชน เพราะเป็นคนขอนแก่น เป็นคนอีสาน ไม่มีเจตนาจะดูหมิ่นดูแคลนประชาชนคนไทยทั้งสิ้น ข้อความดังกล่าวทางต้นเรื่องก็ไม่มีเจตนาดูแคลนประชาชน เรื่องนี้ ผวจ.ขอนแก่นตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว คาดว่าจะทราบข้อเท็จจริงเร็วๆนี้ ส่วนการเผยแพร่ทางสังคมออนไลน์นั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าส่งมาจากทาง อบจ.ขอนแก่น ได้ประสานให้นายก อบจ.ขอนแก่นตรวจสอบเช่นกัน โดยส่วนตัวยังไม่ดำเนินการใดๆกับผู้ที่นำหนังสือดังกล่าวไปเผยแพร่
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ระหว่างการแถลงข่าว นายสุชัยได้นำหนังสือฉบับที่แก้ไขแล้ว มาโชว์ให้สื่อมวลชนดูด้วย มีการเปลี่ยนคำจาก “ทำอย่างไรให้ประชาชนหายโง่” เป็น “ทำอย่างไรให้ ประชาชนมีความรู้ความเท่าทันโลกที่เปลี่ยนแปลง” โดยในหนังสือที่มีการแก้ไขใหม่ระบุว่า เนื่องจากหนังสือดังกล่าวมีถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม ทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อนในสาระสำคัญ
ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยกล่าวว่า สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกแถลงการณ์เรียกร้องถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย และ รมว.มหาดไทย ให้ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน มาตรา 59 มาตรา 69 หรือมาตรา 70 สั่งให้รอง ผวจ.ขอนแก่นคนดังกล่าวออกจากราชการ หรือโยกย้าย ฐานกล่าวหาประชาชนโง่ แม้จะมีการ แก้ไขแล้ว แต่ถือว่าเป็นความผิดที่สำเร็จแล้ว การใช้ ถ้อยคำดังกล่าวถือว่าร้ายแรงมาก เหยียดหยามศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์กับประชาชน เป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 4 และขัดต่อข้อบังคับว่าด้วยจรรยาข้าราชการกรมการปกครอง ข้อ 5 (1) ที่บัญญัติว่าข้าราชการกรมการปกครองต้อง “เคารพและให้เกียรติประชาชนทุกคนอย่างเสมอภาค เป็นธรรม และไม่เลือกปฏิบัติ คำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเท่าเทียมกันของบุคคล”
ต่อมาช่วงเย็น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น นายสุชัย บุตรสาระ รอง ผวจ.ขอนแก่น นายสันติ เหล่าบุญเสงี่ยม รอง ผวจ.ขอนแก่นนายณรงค์ คลังเงิน ท้องถิ่นจังหวัดขอนแก่น และนางพรทิพย์ ขำชื่น หัวหน้าฝ่ายบริหารทั่วไป สำนักงานส่งเสริมปกครองท้องถิ่น ร่วมแถลงข่าวอีกครั้ง โดยนายสมศักดิ์พร้อมคณะได้ยกมือไหว้ขอโทษ ขออภัยประชาชนในความผิดพลาด ความพลั้งเผลอของเจ้าหน้าที่พร้อมกล่าวว่า ขอให้โอกาสให้เจ้าหน้าที่ทำงาน ยืนยันว่าทุกคนตั้งใจทำงานไม่คิดดูถูกดูแคลน จะใช้โอกาสต่อจากนี้จัดอบรมเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการ ที่เกี่ยวข้องกับการร่าง พิมพ์ และตรวจทาน เข้าอบรมหลักสูตรสารบรรณ เพื่อให้การใช้คำในหนังสือราชการถูกต้องเหมาะสม คณะกรรมการตรวจสอบที่ตั้งขึ้นมา โดยมีหัวหน้าสำนักงานจังหวัดขอนแก่นเป็นประธานพร้อมคณะรวม 5 คน ตรวจสอบเสร็จเรียบร้อยแล้วพบว่าเป็นความผิดพลาดพลั้งเผลอของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่ไม่มีเจตนา จึงได้ว่ากล่าวตักเตือนเรียบร้อยแล้ว และต้องไม่เกิดเหตุการณ์กรณีนี้ขึ้นอีก
