โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

2ช.”ชูวิทย์-ชัยวัฒน์” จอมแฉแห่งปี 65

INN News

อัพเดต 31 ธ.ค. 2565 เวลา 01.36 น. • เผยแพร่ 31 ธ.ค. 2565 เวลา 01.32 น. • INN News
2ช.”ชูวิทย์-ชัยวัฒน์” จอมแฉแห่งปี 65
ในปีพุทธศักราช 2565 ประเด็นสุดอื้อฉาวอาชญกรรมการเมืองมาพีคสุดขีดช่วงปลายปี กับเรื่องของทุนจีนสีเทาเขย่าเมือง และเรื่องสินบนกรมอุทยานสะท้านเมือง พร้อมกับทำให้ตัวละครหลายตัวถูกกระชากหน้ากาก สังเวยความเหลวแหลกในสังคมไทย ส่วนผู้เป็นคนจุดชนวน ปฐมเหตุดังกล่าว อย่าง 'ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์' และชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร กลับมาเป็นดาวดัง ได้รับการชื่นชมอีกครั้ง หลังจากมีชื่อเสียงโด่งดังมาระดับหนึ่งแล้ว

โดยคนแรก ต้องบอกว่าปีนี้เป็นปีทองของ 'ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์' หลังกลับมาแฉแหลกทุนจีนสีเทาจนกลายเป็นเรื่องร้อนระดับประเทศ เชื่อมโยงไปยังหลายตัวละคร ทั้งตำรวจ นักการเมือง และผู้มีอิทธิพลมังกรจีน อย่างล่าสุดเพิ่งปล่อยภาพบ่อนทุนจีนสีเทา พบหลานตู้ห่าวยืนคุม ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจค้นกลับไม่พบอะไร เผย วันตรวจสอบข้อมูลกล้องถูกล้างออกแต่ตนเองยังมีอยู่ ก่อนจะแซะผบช.น. คนเก่ง อย่าบอกนะว่าไม่มี เสียชื่อตำรวจไทย ให้ผมทำงานแทนไหม? ว่างอยู่พอดี

สำหรับประเด็นสุดฮฮตนี้ เริ่มจาก 26 ต.ค.2565 ตำรวจนำกำลังเข้าตรวจค้นผับของคนจีน ย่านยานนาวา พร้อมจับกุมผู้ใช้บริการพบปัสสาวะสีม่วง พบยาเสพติดจำนวนมาก รวมถึงตรวจยึดทรัพย์สิน 49 รายการ และรถหรู 35 คัน ต่อมา "ชูวิทย์ " แฉข้อมูลว่า "ตู้ห่าว" เป็นเจ้าของผับ และเป็น 1 ใน 5 กลุ่มทุนจีนสีเทา ซึ่งเขาอ้างว่า เป็นกลุ่มที่เข้ามาทำธุรกิจสีเทาในไทย ทั้งบ่อนการพนัน ผับ บาร์ ยาเสพติด และการฟอกเงิน มีความสัมพันธ์ถึงผู้มีอำนาจในประเทศ

ต่อมา รองต่อนายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล ออกมาเคลื่อนไหวในลักษณะปกป้องกลุ่มทุนจีนสีเทา ทำให้ ทั้งชูวิทย์ และ สันธนะ กลายเป็นคู่แค้นทางคับแคบ มีปากเสียงออกสื่อหลายครั้ง พูดจาโต้ตอบกันไปมาอย่างดุเดือด ประหนึ่งจะห่ำหั่นให้ตายไปข้างหนึ่ง ตามมาด้วยแต่ละคนก็พยายามลากไส้ของศัตรูคู่แค้นออกมาประจานให้สาธารณชนรับรู้ กลายเป็นศึก THAI FIGHT ที่ถือว่าถูกคู่ สมน้ำสมเนื้ออย่างยิ่ง

เรื่องร้อนนี้ลามไปถึงบิ๊กตร.และพล.อ.ประยุทธ์ด้วย เมื่อ"ชูวิทย์ "ยังเล่นไม่เลิก ออกมาแฉรายวัน จนกระทั่งนายกฯ ออกคำสั่ง ครม. ให้ติดตามเป็นคดีสำคัญ และให้รายงานผลทุก 15 วัน โดยนายกฯระบุว่า ได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งตรวจสอบดำเนินคดีกับกลุ่มทุนจีน มีพฤติกรรมกระทำความผิดในลักษณะอาชญากรรมข้ามชาติ เร่งขยายผลไปสู่กลุ่มอาชญากรและผู้กระทำผิดกฎหมายรายอื่นๆ โดยจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้เกี่ยวข้องทุกรายโดยไม่มีข้อยกเว้น

ส่วนอีกประเด็นร้อนส่งท้ายปลายปี คือการจับกุมอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และได้รับการประกันตัวไปในวงเงิน 4แสนบาท ต่อมาถูก พล.อ. ประยุทธ์ ได้ลงนามให้เอาตัวมาช่วยราชการที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับคดี และให้เจ้าหน้าที่สืบสวนได้สะดวก ไม่มีข้อครหา พร้อมๆกับชื่อของ ชัย วัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ถูกสื่อหลายแห่งรายงานว่า เขาคือผู้แจ้งเบาะแสกล่าวหาการทุจริตจนนำไปสู่การบุกจับกุมดังกล่าว

ที่ผ่านมา ชื่อของ ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร โดดเด่นในฐานะผู้พิทักษ์ป่า และเจ้าหน้าที่ที่เข้มแข็งในการต่อสู้กับความไม่ยุติธรรมต่างๆ แต่ต่อมา ต้องมรสุมชีวิต ต้องคดีข้อหาฉกรรจ์ นายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ ที่ต้องไปต่อสู้ตามกระบวนการกฏหมายในชั้นศาลต่อไป แต่ในเรื่องร้องเรียนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติเจ้านายตัวเองนั้น ชัยวัฒน์ บอกว่า เพราะทนเห็นพฤติกรรมแบบนี้ไม่ได้ ตัวเองยังเคยถูกเรียกสินบน เลยยอมเป็นระเบิดพลีชีพ

และเมื่อสาวลงไปพบว่าอธิบดีรายนี้เป็นน้องชายของบิ๊กทหารเพื่อนร่วมรุ่นกับพล.อ. ประยุทธ์ จึงทำให้สังคมจับตามากยิ่งขึ้นนั่นเอง อย่างไรก็ตามต้องจับตาว่าทั้งคดี ทุนจีนสีเทา กับปมเงินสินบน จะไปลงเอยที่ไหนและอย่างไร หรือจะค่อยๆเลือนลางหายไปกับสายลมแห่งอำนาจหรือไม่ ?

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0