โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ประวัติ ซันไลต์

ลงทุนแมน

อัพเดต 13 ธ.ค. 2560 เวลา 02.07 น. • เผยแพร่ 13 ธ.ค. 2560 เวลา 00.50 น. • ลงทุนแมน

ประวัติ ซันไลต์ / โดย เพจลงทุนแมน
รู้หรือไม่ว่าน้ำยาล้างจานซันไลต์ เคยเป็นสบู่มาก่อน
แล้วใครคือเจ้าน้ำยาล้างจานซันไลต์?
เจ้าของก็คือ บริษัท ยูนิลีเวอร์ ที่เรารู้จักกันดี
ยูนิลิเวอร์ คือ กลุ่มธุรกิจ ที่ทำธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีสินค้าทั้งอาหารและเครื่องใช้ในครัวเรือนและส่วนบุคคล

บริษัท ยูนิลิเวอร์ ในเวทีโลก เมื่อปี 2016 มีรายได้มากถึง 11 ล้านล้านบาท หรือเกือบเท่า GDP ประเทศไทยซึ่ง CEO คนปัจจุบันคือ Paul Polman ซึ่งดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 2009

ตลาด FMCG (Fast Moving Consumer Goods) หรือที่เราเรียกกันอย่างคุ้นชิน ก็คือ ตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค
ซึ่งตลาด FMCG ในเมืองไทยมีขนาดที่ใหญ่มากๆ

จากผลวิจัยตลาดของ บริษัท กันตาร์ เวิร์ลดพาแนล (ไทยแลนด์) – Kantar Worldpanel (Thailand) ได้เปิดเผยรายงานสรุปภาพรวมของสินค้า FMCG ของไทยในปัจจุบันมีมูลค่าถึง 444,449 ล้านบาท

ในตลาด FMCG มีกลุ่มตลาดย่อยกลุ่มหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ คือ ตลาดน้ำยาล้างจาน โดยปัจจุบันตลาดนี้มีมูลค่าสูงถึง 5,300 ล้านบาท และเบอร์หนึ่งในตลาดแห่งนี้ ทุกคนคงต้องตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า น้ำยาล้างจานซันไลต์

มาดูที่มาที่ไปของน้ำยาล้างจานซันไลต์กัน ว่าเป็นอย่างไร?

ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 126 ปี ในช่วงทศวรรษที่ 1890 นายวิลเลี่ยม เฮสเกธ ลีเวอร์ ผู้ก่อตั้ง บริษัทลีเวอร์ บราเธอร์ส (ยูนิลีเวอร์ในปัจจุบัน) มีความตระหนักถึงเรื่องความสะอาดและสุขอนามัยในอังกฤษ จนได้กระทั้งค้นพบแนวคิดที่ว่า…จะทำอย่างไรจะให้การทำความสะอาดเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ใช่งานหนักอีกต่อไป และสามารถทำให้ผู้หญิงทำงานน้อยลง

ด้วยแนวคิดนี้เอง สบู่ซันไลต์ จึงกำเนิดขึ้น

ในเวลาต่อมา เมื่อ 103 ปี ที่แล้ว บริษัทยูนิลีเวอร์ (ชื่อเดิมคือ ลีเวอร์ไทย) ได้เริ่มเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย โดยช่วงแรกของการทำธุรกิจก็เป็นการนำเข้าสินค้าเข้าสินค้าจากเมืองนอกมาขาย

และสินค้าตัวหนึ่งที่เข้ามาด้วยก็คือ สบู่ซันไลต์

สบู่ซันไลต์ถือได้ว่าเป็นนวัตกรรมในช่วงนั้นเลยก็ว่าได้ เพราะ คนไทยสมัยนั้นยังใช้พืชพรรณธรรมชาติมาดัดแปลงใช้เป็นวัสดุทำความสะอาดสิ่งต่างๆอยู่

ยูนิลีเวอร์เข้ามามีบทบาทมากในการเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตของผู้บริโภคในไทยอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการทำความสะอาด

สบู่ซันไลต์ในยุคนั้น เป็นสบู่อเนกประสงค์ ใช้ฟอกตัวก็ได้ ล้างจานก็ได้ ซักผ้าก็ได้ พูดง่ายใช้ทำแทบทุกอย่าง
ต่อมาก็มีพัฒนามาเป็นครีมล้างจาน และพัฒนาต่อยอดสู่ “น้ำยาล้างจาน” ที่สุด

ซันไลต์ ขจัดคราบมันง่ายดายกว่า ไม่ต้องเปลืองแรง เป็นสโลแกนทางการตลาดที่หลายคนอาจเคยได้ยินมาบ้าง จนมาถึงวันนี้ แบรนด์ที่มีชื่อว่า ชันไลต์ ก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำในตลาดน้ำยาล้างจานแบบไม่ต้องสงสัย เป็น Top of mind ของแม่บ้านชาวไทยทุกครัวเรือน

ณ วันนี้ บริษัท ยูนิลิเวอร์ ยิ่งใหญ่มากในไทย และเป็นเจ้าพ่อของวงการ FMCG

บริษัทนี้ทำธุกิจมานาน นานซะจนมีแบรนด์อยู่ในมือมากกว่า 400 แบรนด์ทั่วโลก อาทิเช่น แอ็กซ์ เบสท์ฟู๊ต ซิตร้า เคลียร์ โคลสอัพ คอมฟอร์ท โดฟ คนอร์ ลิปตัน ลักซ์ พอนด์ ซันซิล วาสลีน วิม เทรซาเม่ โปรแมกซ์ อาวียองซ์ เป็นต้น ซึ่งทุกแบรนด์ที่กล่าวมานี้โด่งดังทุกแบรนด์

ถึงแม้ว่า ซันไลต์ จะเป็นแบรนด์ที่ยิ่งใหญ่ ก็ยังประสบปัญหาเหมือนกันนะ

อะไรคือปัญหา?

ปัญหาที่น่าปวดหัวที่สุดของซันไลต์ ก็คือ คู่แข่ง วันนี้ซันไลต์ มีคู่แข่งมากมาย โดยคู่แข่งคนสำคัญที่หายใจรดต้นคออยู่ตอนนี้อย่างน้ำยาล้างจานไลปอนเอฟ จากค่ายไลอ้อน ในเครือสหพัฒน์ ตลอดจนสินค้าเฮาส์แบรนด์ต่างๆ ของโมเดิร์นเทรดอย่าง BigC Lotus ตลอดจนแบรนด์เล็กๆ OTOP ตามหมู่บ้าน

อย่างไรก็ตามถ้าให้คนเลือกซื้อ ก็คงต้องยอมรับว่ามีหลายท่านที่จะหยิบขวดสีเหลืองที่คุ้นตาอย่างซันไลต์โดยไม่ต้องคิด

ซันไลต์ถือได้ว่าเป็นกรณีศึกษาที่ดีมาก สำหรับชีวิตคนเรา

มองชีวิตเราให้เป็น ดังเช่นช่วงชีวิตของซันไลต์

สมัยเริ่มแรกเป็นสบู่อเนกประสงค์ (ลองทำนู่นทำนี่เพื่อหาสิ่งที่ตัวเองชอบ)

พัฒนาตัวเองเรื่อยมาเป็นจนเป็นครีมล้างจาน (เริ่มรู้ตัวตนว่าเก่งด้านไหน)

มาจนวันนี้เป็นน้ำยาล้างจาน เป็นที่ยอมรับของตลาด (ค้นพบจุดยืนที่แท้จริง)

เมื่อเราโตขึ้น ถ้าวันไหนเราเริ่มจับจุดบางอย่างในชีวิตได้ ขอให้ทำต่อไปให้สุด แล้วเราอาจจะเป็นที่ยอมรับกันกว้างขวางอย่าง ซันไลต์ ก็เป็นได้..

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0