นายศักดิ์ดา สุขเกษม หัวหน้ากลุ่มบริหารจัดการด้านการประมง สำนักงานประมงจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ เข้าตรวจสอบเข้าตรวจสอบการทำประมงของชาวประมงพื้นบ้านวางอวนกุ้ง ที่บริเวณชายฝั่งปากคลองจิหลาด ม.7 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ ใกล้กับท่าเทียบเรือ อบจ.กระบี่ โดยพบว่ามีชาวประมงพื้นบ้าน นำเรือหางยาวกว่า 30 ลำ กำลังใช้อวนวางดักจับกุ้งแชบ๊วยอย่างคึกคัก
นายสมบูรณ์ บันนาลัง ชาวประมงพื้นบ้านตำบลคลองประสงค์ กล่าวว่า หลังจากทราบว่ามีกุ้งแชบ๊วยชุกชุมบริเวณปากคลองจิหลาด จึงได้นำอวนกุ้งมาวางดักจับครั้งเดียว ใช้เวลาประมาณ 20 นาที สามารถจับกุ้งแชบ๊วยได้ประมาณ 10 กิโลกรัม คิดเป็นรายได้ไม่ต่ำกว่า 2,000 บาท ซึ่งพบว่า ปีนี้กุ้งมีขนาดใหญ่ขึ้น และเข้ามาใกล้ชายฝั่งมากกว่าทุกปี ทำให้ไม่ต้องออกไปไกลชายฝั่ง ลดค่าใช้จ่ายและใช้เวลาไม่นาน ซึ่งราคากุ้งแชบ๊วยที่จับได้ ขายกันบนเรือไม่คัดแยกขนาด กิโลกรัมละ 200 บาท หากคัดแยกขนาด ขายกันตามท้องตลาด ราคากิโลกรัม 300-350 บาท
นายศักดิ์ดา กล่าวว่า สัตว์น้ำทะเลทุกชนิดเข้ามาอาศัยหากินตามแนวชายฝั่งของจังหวัดกระบี่ มีปริมาณมากขึ้น หลังจากมีการรณรงค์ไม่ใช้เครื่องมือประมงผิดกฎหมาย ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายชาวประมงพื้นบ้านเป็นอย่างดี ทั้งเรืออวนรุนโพงพาง และโป๊ะน้ำตื้น หมดไปจากทะเลกระบี่ ซึ่งอุปกรณ์ข้างต้น ใช้อวนตาถี่ ทำลายสัตว์น้ำวัยอ่อน ไม่มีโอกาสเจริญเติบโต หรือขยายพันธุ์ สำหรับในปีนี้ คาดว่า ปริมาณกุ้งแชบ๊วยจะมีมากกว่าทุกปี