นพดลพบตร. ปัดช่วยเจ้าสัวเสือดำ

“นพดล พฤกษะวัน” ให้ปากคำคดี “เจ้าสัวเปรมชัย” ติดสินบนเจ้าหน้าที่ ยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับคดีที่เกิดขึ้น ผบก. ปปป.เชื่อสำนวนคดีครบถ้วน เตรียมสรุปสำนวนส่งศาลอาญาทุจริตภาค 7 “ศรีสุวรรณ” ออกแถลงการณ์คัดค้านกรมอุทยานฯคิดค่าเสียหายต่อระบบนิเวศ เพื่อเรียกค่าเสียหายคดีล่าสัตว์แค่ 3 ล้านบาทเศษ ไม่สอดคล้องความจริง ฟันธงค่าเสียหายต้องไม่น้อยกว่า 300-500 ล้านบาท ขู่ฟ้องกรมอุทยานฯ หากไม่เปลี่ยนวิธีคิดค่าเสียหายใหม่ ขณะที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตกได้รับ “โล่เชิดชูเกียรติ” หน่วยงานมีผลงาน เชิงประจักษ์ในด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

คดีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กับพวกรวม 4 คนเข้าไปล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ถูกดำเนินคดี 9 ข้อหา ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนการสอบสวนเพิ่มเติมให้พนักงานอัยการส่วนคดีติดสินบน พนักงานสอบสวน ปปป.แจ้งข้อหานายเปรมชัย และนายยงค์ โดดเครือ คนขับรถแล้ว เตรียมเรียกนายนพดล พฤกษะวัน อดีตข้าราชการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ผู้ประสานงานให้นายเปรมชัยเข้าพื้นที่ มาสอบปากคำว่ามีส่วนร่วมติดสินบนเจ้าหน้าที่หรือไม่นั้น

ความคืบหน้าคดีติดสินบนไม่ให้จับกุมเจ้าสัวคนดังกับพวกในคดีล่าเสือดำเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 มี.ค. ที่กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (บก.ปปป.) นายนพดล พฤกษะวัน อดีตข้าราชการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ผู้ประสานงานให้นายเปรมชัย กรรณสูต กับพวกเข้าพื้นที่ป่า เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. โดยนายนพดล กล่าวก่อนเข้าห้องสอบสวนว่า ไม่ทราบว่าตำรวจเรียกตนมาทำไม ยืนยันว่าไม่ได้มีความผิดอะไร

ส่วน พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. กล่าวว่า เชิญนายนพดลมาสอบปากคำในฐานะพยาน เกี่ยวกับพฤติการณ์ตั้งแต่การประสานขอเข้าพื้นที่ให้แก่นายเปรมชัยและพวก ไปจนถึงขณะที่นายเปรมชัยและพวกถูกจับกุมกระทั่งถูกแจ้งข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงาน เนื่องจากนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก ระบุว่าขณะจับกุมนายเปรมชัยกล่าวอ้างถึงนายนพดลว่าจะมาเคลียร์ให้ หลังการสอบปากคำนายนพดลต้องพิจารณาอีกครั้งว่าจะต้องสอบปากคำบุคคลอื่นเพิ่มเติมอีกหรือไม่ เนื่องจากการที่นายนพดลประสานขอเข้าพื้นที่ให้นายเปรมชัยนั้น เกี่ยวโยงกับเจ้าหน้าที่หลายคน ขอยืนยันว่ายังไม่พบว่านายนพดลมีความผิดในข้อหาใด

หลังสอบปากคำนานกว่า 2 ชั่วโมง พล.ต.ต.กมล เปิดเผยว่า นายนพดลยืนยันตามที่มีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่า มีการประสานขอเข้าพื้นที่อุทยาน แห่งชาติทุ่งใหญ่นเรศวรฯ โดยโทรศัพท์ติดต่อกับนางกาญจนา นิตยะ ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และขอเบอร์โทรศัพท์นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร และมีการพูดคุยกับนายวิเชียรก่อนที่นายเปรมชัยจะเข้าพื้นที่ พร้อมยืนยันว่าในวันที่เจ้าหน้าที่จับกุมนายเปรมชัยกับพวก นายเปรมชัยไม่ได้ติดต่อมาเพื่อให้เจรจากับเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ นายนพดลยังขอให้พนักงานสอบสวนระบุในท้ายคำให้การว่านายเปรมชัย ไม่ได้เข้าป่าเพื่อไปล่าสัตว์

ผบก.ปปป. กล่าวต่อว่า การสอบปากคำวันนี้เสร็จสิ้นแล้ว ส่วนตัวมองว่าไม่จำเป็นต้องนัดนายนพดลมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีก เบื้องต้นยังไม่มีความจำเป็นต้องเรียกบุคคลอื่นมาสอบปากคำเพิ่มเติม เพราะสำนวนครบถ้วนแล้ว แต่ก็จะต้องนำเข้าที่ประชุมพนักงานสอบสวนพิจารณาอีกครั้งและจะรีบสรุปสำนวนส่งศาลอาญาทุจริตภาค 7 ให้ทันภายในวันที่ 30 มี.ค.นี้

ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนออกแถลงการณ์ คัดค้านกรมอุทยานฯ ประเมินค่าเสียหายต่อระบบนิเวศในคดีล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฯ ประมาณ 3,034,612 บาท เพื่อเรียกค่าเสียหายทางแพ่งกับคณะของนายเปรมชัย กรรณสูต ว่าการประเมินดังกล่าวไม่น่าจะสอดคล้องกับค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริงจากการที่ต้องสูญเสียเสือดำซึ่งเป็นสัตว์ป่าตามบัญชีหมายเลข 1 ของอนุสัญญาไซเตสและเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองที่หายากและมีความเสี่ยงของการสูญพันธุ์สูง ไม่สามารถเพาะขยายพันธุ์ได้ง่ายๆ เพราะเสือดำเกิดขึ้นมาในลักษณะของการกลายพันธุ์ หรือการผ่าเหล่า (Mutation) ของเสือดาว จะนำมาเปรียบเทียบกับการซื้อขายสัตว์ทั่วไปไม่ได้

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การสูญเสียเสือดำเพศเมียไป 1 ตัว ทำให้เสียสมดุลทางนิเวศในพื้นที่ไปเป็นเวลานานกว่า 5 ปี เพราะเสือดำเป็นสัตว์นักล่าอยู่ชั้นบนสุดของห่วงโซ่อาหาร ทำให้สัตว์ถูกล่า เช่น กระต่าย หมูป่า กวาง เจริญพันธุ์ได้มากขึ้น มีโอกาสที่จะไปทำลายนิเวศโดยรอบให้เสียสมดุล อีกทั้งเสือดำเพศเมียที่ถูกฆ่าอยู่ในวัยเจริญพันธุ์มีโอกาสที่จะขยายพันธุ์ได้ในรุ่นลูก รุ่นหลาน เมื่อเปรียบเทียบกับมูลค่าของการผลิตเสือลายเมฆที่สวนสัตว์เขาเขียว ตามโครงการความร่วมมือในการอนุรักษ์เสือลายเมฆในประเทศไทย พบว่ามีค่าใช้จ่ายมากกว่า 500 ล้านบาทกว่าที่จะผลิตเสือลายเมฆได้หนึ่งคู่ สามารถขอข้อมูลจากองค์การสวนสัตว์ได้ ขอเรียกร้องต่อกรมอุทยานฯ ให้เปลี่ยนหลักคิดในการเรียกค่าเสียหายจากการฆ่าเสือดำเสียใหม่ไม่น่าจะต่ำกว่า 300-500 ล้านบาท ซึ่งเป็นหลักคิดค่าเสียหายในการลงโทษที่สากลใช้กัน

นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ไม่ต้องเกรงว่าจะเป็นบรรทัดฐานที่จะกระทบต่อบุคคลอื่นๆ ที่อาจจะขับรถไปชนเสือดำตาย เพราะการฆ่าเสือดำนั้นกฎหมายจะเอาผิดขั้นสูงสุดก็แต่เฉพาะคนที่มีเจตนาฆ่าเท่านั้น อย่างไรก็ตามหากกรมอุทยานฯไม่ทบทวนวิธีคิดค่าเสียหายดังกล่าวเสียใหม่ สมาคมฯ จำเป็นที่จะต้องใช้สิทธิทางศาลในการฟ้องกรมอุทยานฯ เพื่อหาข้อยุติในทางกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายวิจารย์ สิมาฉายา ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้ออกประกาศกระทรวง เรื่องผลการคัดเลือกโครงการคัดเลือก “เพชรจรัสแสง” บุคคลต้นแบบ สังกัดกระทรวงทรัพยากรฯ ประจำปี 2560 เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัด ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โดยในส่วนของกรมอุทยานฯมีผู้ได้รับคัดเลือกให้รับรางวัลเพชรจรัสแสงที่สำคัญ คือนายศรายุทธ ตันเถียร หัวหน้าอุทยานฯ อ่าวพังงา มีผลงานในการจัดเก็บค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ ได้มากที่สุด เมื่อครั้งทำหน้าที่เป็นหัวหน้าอุทยานฯหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ขณะที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก ได้รับรางวัล “โล่เชิดชูเกียรติ” หน่วยงานที่มีผลงานเชิงประจักษ์ในด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

ทั้งนี้ส่วนราชการในสังกัดกระทรวงทรัพยากรฯ ที่มีข้าราชการและเจ้าหน้าที่ได้รับรางวัลดังกล่าวจะต้องพิจารณาความดีความชอบให้แก่ผู้มีรายชื่อตามโครงการดังกล่าว เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน และเพื่อเป็นบุคคลต้นแบบให้แก่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ต่อไป