ไทยลีกปีนี้ แต่ละสโมสรทุ่มทุนทำทีมกันมหาศาล หลังรายได้จากการแข่งขันและธุรกิจที่เกี่ยวข้องเติบโตอย่างต่อเนื่อง
จากการตรวจสอบงบการเงินของบริษัทเจ้าของสโมสรรายงานต่อกระทรวงพาณิชย์ล่าสุด (ปี 2559) พบว่ารายได้ของสโมสรฟุตบอลไทยในลีก 1 และลีก 2 มีจำนวนรวมกันเท่ากับ 3.1 พันล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับ 3 ปีก่อนพบว่าโตเพิ่มขึ้นกว่า 1.8 เท่าตัว หรือขยายตัวเฉลี่ย 21.8% ต่อปี โดยรายได้ 85% อยู่ในทีมสโมสรลีก 1 และกว่าครึ่งอยู่ใน 4 ทีมใหญ่ ได้แก่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 815 ล้านบาท เอสซีจี เมืองทองยูไนเต็ด 445 ล้านบาท บางกอกกล๊าส เอฟซี 258 ล้านบาท และทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 200 ล้านบาท ทำให้ปีนี้ แต่ละทีม ทุ่มงบประมาณมหาศาล เพื่อทำทีมในฤดูกาลใหม่
โดยทีมใหญ่จะใช้งบทำทีมในหลักร้อยล้านบาท มากที่สุดเป็นเอสซีจีเมืองทอง ที่ประกาศใช้งบสูงสุดในลีก 400 ล้านบาท เพื่อกลับมาทวงบัลลังก์แชมป์ ตามมาด้วย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดแชมป์เก่า ใช้เงินทำทีมปีนี้ 300 ล้านบาทเน้นซื้อดาวรุ่งมาร่วมทัพ ส่วนที่ 3 ร่วมทีมที่ใช้เงินทำทีมเท่ากัน ทีมละ 250 ล้านบาท คือ สิงห์เชียงราย และทรูแบงค็อก ขณะที่ท่าเรือ ของมาดามแป้งใข้เงินไป 200 ล้านบาท กับการทุ่มซื้อปรับทีมยกใหญ่
ทั้งนี้รายได้การทำทีมฟุตบอลมาจาก 5 แหล่งใหญ่ ได้แก่ 1) รายได้จากการจัดการแข่งขัน ได้แก่ การขายบัตรเข้าชมเกมและการขายของที่ระลึกของสโมสร 2) รายได้จากลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด (Broadcast) โดยสโมสรที่อยู่ในลีก 1 จะได้รับค่าลิขสิทธิ์ทีมละ 20 ล้านบาท ทีมในลีก 2 จะได้รับเงินค่าลิขสิทธิ์ทีมละ 3 ล้านบาท 3)เงินอุดหนุนให้ทีมที่ยื่นเสนอแผนพัฒนาทีมโดยลีก 1 จะได้รับทีมละ 5 ล้านบาท และลีก 2 จะได้รับทีมละ 1 ล้านบาท 4) รายได้เชิงพาณิชย์ของสโมสร (Commercial) ได้แก่ รายได้จากสปอนเซอร์ การซื้อขายนักเตะของสโมสร การให้เช่าสนามฟุตบอล และ 5) รางวัลจากการแข่งขัน โดยแชมป์ไทยแลนด์ลีก 1 จะได้รับเงินรางวัล 10 ล้านบาท รองแชมป์ 3 ล้านบาท ที่สาม 1.5 ล้านบาท
