หลังจากทีมช่วยเหลือได้เคลื่อนย้ายช้างตัวนี้ขึ้นรถบรรทุกจากอ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ตั้งแต่เมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา เพื่อมารักษาตัวต่อที่สถาบันคชบาลแห่งชาติองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ อ.ห้างฉัตร.ลำปาง โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 ชั่วโมง ท่ามกลางการดูแลของสัตว์แพทย์อย่างใกล้ชิด
07.30 น.เจ้าหน้าที่กว่า 50 คนได้ พยายามนำตัวช้างลงจากรถ โดยใช้รถแบคโฮ 1 คัน พร้อมทั้งโยงเชือกประคองตัวช้าง แต่เนื่องจากช้างมีอาการซึม เนื่องจากฤทธิ์ยาสลบ และน้ำหนักที่มากถึง 3 ตัน ประกอบกับขาหลังไม่สามารถใช้งานได้ จึงได้นำรถแบคโฮมาเพิ่มเป็น 2 คัน จึงสามารถนำลงจากรถบรรทุกมาได้เมื่อเวลา ประมาณ 11.00 น. ก่อนนำช้างป่าตัวนี้มาพักไว้ที่เสาค้ำยัน ที่มีกองทราย และ กองฟางวางซ้อนทับอยู่อีกชั้นหนึ่ง เพื่อพยุงน้ำหนัก และลดแรงกดทับที่อาจจะเกิดขึ้นบริเวณลำตัวของช้าง หลังจากนี้ เจ้าหน้าจะประเมินอาการก่อนที่จะประชุมวางแผนให้การรักษาต่อไป
นายสัตวแพทย์ทวีโภค อังควานิช ผู้จัดการส่วนงานอนุรักษ์และบริบาลช้าง ประจำโรงพยาบาลช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย กล่าวว่า ขณะนี้พบว่าช้างเริ่มอ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัด และจากที่ขาหลังไม่สามารถพยุงตัวได้และขณะที่พบว่าขาหน้าทั้งสองข้างเริ่มอ่อนแรงด้วย ส่วนอาการที่พบเพิ่มเติมในขณะนี้พบว่าในช่องท้องมีการดันตัวของลมทำให้อวัยวะเพศโผล่ออกมาไม่ยอมกลับเข้าไปอยู่ในตัว และรูทวารมีอาการบวม ซึ่งเป็นสัญญาณอันตราย