โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ชวนขึ้นเขา ชมน้ำตก ส่องพระอาทิตย์เที่ยงคืนที่นอร์เวย์

Airports of Thailand Website

เผยแพร่ 22 มี.ค. 2561 เวลา 10.05 น.
ชวนขึ้นเขา ชมน้ำตก ส่องพระอาทิตย์เที่ยงคืนที่นอร์เวย์
ชวนขึ้นเขา ชมน้ำตก ส่องพระอาทิตย์เที่ยงคืนที่นอร์เวย์

ด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่งดงามและทัศนียภาพชวนฝันที่เลื่องลือไปทั่วโลกของประเทศนอร์เวย์ รวมถึงปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่หาดูไม่ได้ในแถบอื่น ทำให้นักท่องเที่ยวมากมายเดินทางมาเยือนประเทศนอร์เวย์และประเทศในแถบสแกนดิเนเวียอย่างไม่ขาดสาย เราเลยจะพาทุกท่านไปรู้จักดินแดนที่น่าไปเยือนแห่งนี้กัน

"นอร์เวย์" เป็นประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับผู้ที่สนใจตามล่าหาความสวยงามของธรรมชาติอย่างแสงเหนือหรือออโรร่าที่พาดผ่านท้องฟ้าในยามค่ำคืนอย่างสวยงาม จนถูกบันทึกให้เป็นอีกจุดหมายปลายทางในฝันของใครหลายคนว่าก่อนตายต้องมาเห็นกับตาตัวเองให้ได้สักครั้ง แต่ปรากฏการณ์แสงเหนือนี้จะพบเห็นได้ก็ต้องอาศัยดวงด้วย บางคนอาจต้องมาเฝ้ารอโอกาสเหมาะนานหลายวันจึงจะเห็น นอร์เวย์ไม่ได้มีดีแค่แสงเหนือเท่านั้น เพราะธรรมชาติยังนำพาปรากฏการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจมาให้ประเทศแห่งนี้อีกอย่างหนึ่ง ปรากฏการณ์ที่ว่าก็คือ พระอาทิตย์เที่ยงคืน (The Midnight Sun)

       ดินแดนพระอาทิตย์เที่ยงคืน คือ ดินแดนที่ถูกแสงแดดสาดส่องตลอดทั้งวันทั้งคืน อันเกิดจากโลกหมุนรอบตัวเองพร้อมกับโคจรรอบดวงอาทิตย์โดยหมุนเอาแกนขั้วโลกเหนือและใต้หันเข้าหาดวงอาทิตย์ ทำให้ประเทศที่อยู่ในแถบขั้วโลกเหนือหรือใต้ที่หันเข้าหาดาวฤกษ์ยักษ์ได้รับแสงสว่างและความร้อนตลอด 24 ชั่วโมงติดต่อกันนานนับเดือน

     ปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนนี้ จะเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนของดินแดนที่อยู่เหนือเส้น Arctic Circle ซึ่งก็ได้แก่ อะแลสกา แคนาดา กรีนแลนด์ ไอซ์แลนด์ สวีเดน ฟินแลนด์ และนอร์เวย์ รวมถึงบางพื้นที่ของรัสเซียก็มองเห็นปรากฏการณ์นี้ได้เช่นกัน และในประเทศนอร์เวย์นั้นจุดที่เห็นพระอาทิตย์เที่ยงคืนได้อย่างชัดเจนที่สุดคือเมืองทรอมโซ่ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมถึงปลายเดือนกรกฎาคม

และเมืองสวาลบาร์ดที่ห่างจากแผ่นดินใหญ่ของประเทศนอร์เวย์ในช่วงกลางเดือนเมษายนถึงปลายเดือนสิงหาคม นอกจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามแล้ว นอร์เวย์ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ ที่น่าสนใจไม่แพ้กันด้วย เช่น

01 | นอร์ท เคป (North Cape)

นอร์ท เคป ตั้งอยู่บนเกาะมาเกโรยา เป็นแหลมปลายหน้าผาที่เบื้องล่างเป็นทะเลแบเร็นตส์ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 307 เมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและชื่อดังของนอร์เวย์ เพราะเป็นสถานที่ที่ผู้คนนิยมไปชมพระอาทิตย์เที่ยงคืนในช่วงฤดูร้อนเหนือน้ำทะเล

02 | กรังเกอร์ฟยอร์ด (Geirangerfjord)

ที่นอร์เวย์จะมีฟยอร์ด ที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลกมากมาย และหนึ่งในนั้นคือกรังเกอร์ฟยอร์ด ที่ได้รับการกล่าวขานว่าสวยที่สุดในบรรดาฟยอร์ดทั้งหมดของนอร์เวย์  ฟยอร์ดนี้ถูกโอบล้อมด้วยป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ รวมถึงสายน้ำที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ชอบมานั่งเรือชมความงามของฟยอร์ดและน้ำตกเซเว่นซิสเตอรส์ ที่ไหลลงสู่แม่น้ำและกลายเป็นองค์ประกอบส่งเสริมให้กรังเกอร์ฟยอร์ดเป็นฟยอร์ดที่สวยงามที่สุดของนอร์เวย์

03 | จุดชมวิวดาล์สนิบบา (Dalsnibba)

ภาพจาก : istockphoto
ภาพจาก : istockphoto
ภาพจาก : www.dalsnibba.no
ภาพจาก : www.dalsnibba.no

จุดชมวิวดาล์สนิบบา เป็นจุดสำหรับชมฟยอร์ดที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,500 เมตร นับได้ว่าเป็นจุดชมวิวฟยอร์ดที่สูงที่สุดในยุโรป ที่นี่มีทั้งทางเดินลัดเลาะตามไหล่เขาเพื่อชมวิวในมุมต่างๆ และทางเดินแบบ Sky Walker ให้ได้ลองวัดใจกันดู ซึ่งการขึ้นไปยังจุดชมวิวดาล์สนิบบา นี้ก็แสนสะดวกสบายเพราะขับรถขึ้นไปได้เลย โดยเสียค่าธรรมเนียม 130 NOK ต่อรถ 1 คัน และถ้าไปในช่วงฤดูหนาวก็จะได้ชมเทือกเขาที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน แต่ถ้าหากไปช่วงฤดูร้อนนอกจากจะได้สัมผัสบรรยากาศของพระอาทิตย์เที่ยงคืนแล้ว ยังสามารถชมวิวฟยอร์ดได้อย่างเต็มตาด้วย

04 | จุดชมวิวโทรลล์ทุงกา (Trolltunga)

สิ่งสำคัญที่ทำให้ จุดชมวิวโทรลล์ทุงกา เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวคือความโดดเด่นจากรูปทรงของมันที่กลายเป็นความสวยงามปนความหวาดเสียว เพราะจุดชมวิวนี้มีลักษณะเป็นแผ่นหินขนาดใหญ่ยื่นออกมากลางอากาศที่ความสูง 1,100 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และเบื้องล่างคือทะเลสาบริงเกเดลวาสเนท ที่มีน้ำสีฟ้าส่องประกายระยิบระยับเมื่อกระทบกับแสงแดด แต่ที่นี่ไม่ได้ขึ้นไปง่ายดายนัก เพราะต้องเดินขึ้นไปประมาณ 11 กิโลเมตร แต่ถ้าใครได้ขึ้นไปถ่ายรูปที่จุดนี้แล้ว ภาพที่ถ่ายออกมานี่เรียกว่าสวยจนลืมเหนื่อยกันเลยทีเดียว

05 | น้ำตกฟอสเซ่น (Latefossen)

ด้วยความที่น้ำตกฟอสเซ่น นี้อยู่ติดกับถนนสายหลักหมายเลข 13 ซึ่งเป็นจุดแวะพักยอดนิยมของนักท่องเที่ยวและชาวนอร์เวย์ ประกอบกับมีน้ำตลอดทั้งปีซึ่งไหลแตกออกเป็น 2 สายก่อนไหลลงมาตามหน้าผาขนาดใหญ่ที่สูงกว่า 165 เมตร ส่วนด้านหน้าน้ำตกก็มีสะพานหินพาดผ่าน ทำให้ที่นี่เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในเขตเมืองออดดา ไปโดยปริยาย ผู้คนส่วนมากจะแวะชมความสวยงามของน้ำตกพร้อมเก็บภาพเป็นที่ระลึก ส่วนทางด้านข้างก็ยังมีร้านขายของที่ระลึกพร้อมร้านอาหารบริการสำหรับนักท่องเที่ยวและนักเดินทางด้วย

การเดินทาง : สามารถบินไปลงที่สนามบินออสโล (RYG – Moss Airport) จากนั้นเข้าเมืองด้วยรถไฟ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที สำหรับการเดินทางภายในประเทศนอร์เวย์โดยเฉพาะระหว่างเมืองและในเมืองใหญ่ๆ สามารถใช้บริการขนส่งสาธารณะได้ทั้งรถราง รถไฟ รถบัส และเครื่องบิน แต่ถ้าวางแผนจะไปตามเมืองเล็กๆ หรือสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งการเช่ารถขับน่าจะสะดวกมากที่สุด 

ช่วงเวลาการท่องเที่ยว : 

  • มิถุนายน – กันยายน เหมาะสำหรับการไปชมพระอาทิตย์เที่ยงคืน ปีนเขา ดูฟยอร์ด
  • พฤศจิกายน – เมษายน เหมาะสำหรับการไปชมแสงเหนือ เล่นสกีและหิมะ
  •  กรกฎาคม จะเป็นช่วงที่คนนอร์เวย์หยุดพักร้อน เพราะฉะนั้นการเดินทางในประเทศรวมถึงเที่ยวบินที่จะมาที่นี่ก็จะลดน้อยลงเช่นกัน

ขอบคุณข้อมูลดีๆและรูปภาพสวยๆจาก expedia

แนะนำ "สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาด" อื่นๆ   ดูที่เที่ยวเพิ่มเติม >>

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0