หลวงพี่วัดดังนัดสีกาลงนะหน้าทองในม่านรูด จ่อทำพิธีร่วมเพศ 5 ครั้ง
วันที่ 18 ก.พ 61 ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองอ่างทอง ได้ทำการวางแผนเข้าจับกุมตัวพระสงฆ์รายหนึ่ง หลังจากได้รับแจ้งจากหญิงสาวรายหนึ่งว่า พระสงฆ์รูปนี้ประพฤติตัวไม่เหมาะสม กับพระธรรมคำสอนของศาสนา มีพฤติกรรมอวดอ้างอุตริมนุสธรรม รวมถึงได้ชักชวนตนเองให้ทำพิธีลงนะหน้าทอง เพื่อการค้าจะได้เจริญรุ่งเรือง หากไม่ทำก็จะมีอันเป็นไป โดยอ้างว่าการพิธีการดังกล่าวจะต้องมีเพศสัมพันธ์กัน 5 ครั้ง ถึงจะสำเร็จ โดยคำพูดที่ใช้ทางไลน์และทางโทรศัพท์ก็ดูไม่เหมาะสมเหมือนกับพระสงฆ์ทั่วไป ซึ่งพระสงฆ์รูปนี้ได้พยายามโทรศัพท์ติดต่ออยู่หลายวัน รวมทั้งส่งข้อความทางไลน์ให้มาทำพิธีลงนะหน้าทอง เพื่อความเป็นสิริมงคลและค้าขายเจริญรุ่งเรือง นอกจากนี้ยังได้ให้หญิงสาวรายนี้ถ่ายรูปของสงวนส่งให้ดูอีกด้วย ซึ่งพระองค์ดังกล่าวได้นัดหมายให้หญิงสาวให้มาทำพิธีลงนะหน้าทอง บริเวณโรงแรมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองอ่างทอง
โดยเจ้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองอ่างทอง ได้ทำการซุ่มโป่ง ซึ่งพระสงฆ์รูปดังกล่าวได้ทำการนัดหญิงสาวให้มารับ บริเวณทางเข้าโรงแรม จากนั้นได้เปลี่ยนจีวรเอาใส่กระเป๋าที่เตรียมมาและซ้อนรถจักรยานยนต์หญิงสาวเข้าไปในโรงแรมเพื่อทำพิธี ซึ่งมีเจ้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเฝ้าดูอยู่ห่าง ๆ เมื่อเข้าไปได้ประมาณ 20 นาที หญิงสาวได้ส่งสัญญาณร้องขอความช่วยเหลือ พร้อมกับเปิดประตูให้เจ้าหน้าที่เข้าไป พบชายศีรษะโล้น สักยันต์ตามร่างกาย นุ่งผ้าขนหนูเพียงผืนเดียว เมื่อตรวจค้นกระเป๋าพบจีวร เครื่องรางของขลัง บทคาถาสวดมนต์ อุปกรณ์ทำพิธีลงนะหน้าทอง ยาไวอากร้า ที่ถูกกินไปแล้ว 2 เม็ด เสื้อยืดสีดำ กางเกงขาวยาวสีดำ และหมวกที่เตรียมมาเปลี่ยนเพื่อตบตา ค้นใบสุทธิ ทราบชื่อต่อมา พระอัมตระวงษ์ แตงเกษม อายุ 52 ปี ซึ่งยอมรับว่าตนเองเป็นพระที่อยู่ในจังหวัดกาญจนบุรี แต่ได้ธุดงค์มาขออาศัยวัดในจังหวัดอ่างทอง เพื่อปฏิบัติธรรม โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่ทำการสอบถามและตรวจค้นสิ่งของอยู่นั้น ทางพระอัมตระวงษ์ ได้ขอร้องทางเจ้าหน้าที่ โดยพูดว่าตนเองถูกหลอกมา และจะไม่ทำอีกแล้วให้ปล่อยตัวกลับวัด ขออย่าได้ถ่ายภาพ เนื่องจากกลัวครอบครัวและลูกเห็นข่าวแล้วจะทำให้เสื่อมเสีย ซึ่งตนเอง ต้องมีหน้าที่รับดูแลครอบครัว และจะขอกลับไปเป็นพระสงฆ์เหมือนเดิม
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองอ่างทอง ได้นำตัวพระอัมตระวงษ์ แตงเกษม เดินทางไปที่วัดอ่างทองวรวิหาร เพื่อให้พระครูสุทธิกิจจาทร เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดอ่างทอง เจ้าอาวาสวัดอ่างทองวรวิหาร ทำการสอบสวนข้อเท็จจริง และทำการสึกจากสมณเพศ พร้อมกับควบคุมตัวไปที่ สภ.เมืองอ่างทอง ส่งมอบให้กับ ร.ต.อ.มานิตย์ นาคไพบูลย์ รองสารวัตรสอบสวน สภ. เมืองอ่างทอง ทำการสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหาในการดำเนินคดีต่อไป