คสช.พ้อ สื่อ แปลเจตนา โฆษก รัฐบาล ขอให้ทำข่าว รมต.รายกระทรวง เพี้ยน กลายเป็นประเด็น แจง อยากให้ ปชช.รับข่าวสารสร้างสรรค์ ไม่ใช่เน้นการเมือง สร้างแตกแยก ขอโทษ หากรบกวนการทำงาน เชื่อ นายกฯ ไม่น้อยใจ
เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 2560 - พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผย กรณีสำนักโฆษกรัฐบาล ได้มีการขอความร่วมมือสื่อติดตามทำข่าวให้กับรัฐมนตรีทุกกระทรวง จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่า เชื่อว่าเป็นเจตนาที่บริสุทธิ์ในการจะบริหารจัดการสนับสนุนเนื้อหาเกี่ยวกับการปฏิบัติงานราชการของแต่ละกระทรวง โดยใช้โอกาสจากการประชุม ครม.สัญจร. แต่พี่น้องสื่อมวลชนบางท่านนำไปทำให้กลายเป็นประเด็น และไม่น่าจะแปรเจตนา ในการจัดสรรเนื้อหาสาระดังกล่าวไปในแง่มุมอื่น. ส่วนกรณีสื่อบางสำนักออกมาระบุ ว่า สื่อไม่มีหน้าที่ประชาสัมพันธ์ หรือเน้นเนื้อหาในลักษณะที่มุ่งให้ความสำคัญหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ว่าได้ทำอะไร ไปแล้ว และกำลังจะทำอะไร เพื่อประเทศ และประชาชนทั้งหมด ถือเป็นเรื่องอิสระส่วนบุคคลคงไม่เป็นไร
"เชื่อว่าทุกส่วนก็คงอยากให้ข่าวสารที่ประชาชน บริโภคเป็นเรื่องที่มีประโยชน์ สร้างสรรค์ มิใช่เรื่องวาทกรรมทางการเมือง เรื่องที่ทำให้สังคมแตกแยก เกลียดชัง ทำผิดกฎหมาย ซึ่งบั่นทอนการสร้างสังคมให้เป็นสุข คิดว่าหากสื่อไม่สะดวกใจ หรือ ไม่สนใจในเนื้อหาที่ทาง สำนักงานโฆษก ได้เตรียมเป็นข้อมูลให้เบื้องต้น ก็คงต้องอยู่ในดุลยพินิจของท่าน และต้องขอโทษแทนด้วยที่คิดว่าเป็นการรบกวนการทำงานของสื่อ" โฆษก คสช. กล่าว
พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ส่วนที่ สำนักงานโฆษกรัฐบาล เคยมีแผนการประสานเพื่อให้เกิดการนำพาเนื้อหาข่าวสารไปถึงประชาชนตามสายงานกระทรวงนั้น ซึ่งถ้ามองว่าไม่มีประโยชน์ หรือไม่ควรนำเสนอ โดยเฉพาะเป็นการรบกวนการทำงานของสื่อด้วยแล้วคงต้องขออภัยแทนมา ณ ที่นี้ด้วย. เพราะถึงอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ หัวหน้า คสช. ยังคงจะต้องทำ ต้องพูด อธิบายสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมประเทศชาติด้วยตัวท่านเองเป็นหลักอยู่ดี. และเชื่อมั่นว่าท่านจะไม่มีอาการการน้อยอกน้อยใจแต่อย่างใด
พ.อ.วินธัย กล่าวว่า การประชุม ครม.สัญจรในครั้งนี้เนื่องจาก นายกรัฐมนตรี มีเจตนาที่ต้องการไปพบปะพูดคุยและสื่อสารกับพี่น้องประชาชนโดยตรง ให้ประชาชนมีขวัญกำลังใจได้รับทราบการทำงานความคืบหน้าในเรื่องต่างๆ ของแต่ละกระทรวง รวมถึงได้รับรู้เรื่องการปฎิรูปประเทศ ที่มีหลายแง่มุมที่จะทำให้ประเทศไทยดีขึ้นอย่างไร เชื่อว่าประชาชนเองก็พร้อมและรอการพบปะกับนายกรัฐมนตรีในลักษณะนี้ เช่นกัน
