นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวถึงกรณีที่มีหลายฝ่ายมีความกังวลว่าปริมาณน้ำในปีนี้ จะส่งผลให้เกิดน้ำท่วมใหญ่คล้ายปี 2554 ว่าปริมาณน้ำในปีนี้ ยังอยู่ในเกณฑ์น้อยกว่าปี 2554 มาก จึงเป็นไปได้ยากมากที่สถานการณ์น้ำท่วมในปีนี้ จะรุนแรงถึงระดับนั้น
โดยศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ ได้ติดตามสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา หลังจากที่ได้มีการปรับแผนการระบายน้ำเพิ่ม พบว่า แนวโน้มระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้น เนื่องจากปริมาณน้ำเหนือยังคงไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้พื้นที่ลุ่มต่ำด้านท้ายเขื่อน นอกคันกั้นน้ำ ยังคงได้รับผลกระทบเนื่องจากมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ที่ผ่านมาได้บริหารจัดการน้ำ เพื่อลดผลกระทบในบริเวณดังกล่าวให้มากที่สุด แต่ยังคงต้องติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังคงมีฝนตกในพื้นที่ตอนบน
ขณะเดียวกัน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประสาน 6 จังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยาและริมฝั่งแม่น้ำป่าสัก ได้แก่ จังหวัดชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เตรียมพร้อมรับมือผลกระทบจากการเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อาจทำให้สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ลุ่มต่ำริมฝั่งแม่น้ำและพื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมขังขยายวงกว้างมากขึ้น