เอเอฟพี – ธุรกิจอาบอบนวดที่กำลังเฟื่องฟูในอินเดียกำลังมีความต้องการผู้หญิงจากไทยมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่ถูกหลอกลวงและขายเป็นทาสในอุตสาหกรรมทางเพศของประเทศนี้ ตำรวจ นักการทูต และนักเคลื่อนไหว เผยในวันนี้ (9)
ผู้หญิงไทยอย่างน้อย 40 คนได้รับการช่วยเหลือในปีนี้ในระหว่างที่ตำรวจบุกตรวจค้นธุรกิจนวดที่เปิดบังหน้าการค้าประเวณีในหลายเมืองทางตะวันตกเช่นมุมไบและปูเน่
“ความต้องการหมอนวดชาวไทยมีสูงในอินเดียเนื่องจากผู้หญิงชาวไทยถูกมองว่ามีชื่อเสียงเรื่องผิวพรรณที่เนียนสวย” โยตี เนล ผู้อำนวยการโครงการของกลุ่ม Save the Children India บอกกับมูลนิธิ ทอมสัน รอยเตอร์
“ผู้หญิงที่รับการช่วยเหลือในการบุกตรวจค้นมักมาจากหลายๆ รัฐในอินเดียและประเทศเพื่อนบ้าน แต่หากผู้หญิงทั้งหมดที่ได้รับการช่วยเหลือเพียงครั้งเดียวมาจากไทย นั่นหมายความว่ายังคงเหลืออีกมาก (ที่ทำงานอยู่ในอินเดีย) “
ตัวอย่างเช่นเมื่อเดือนกรกฎาคม ผู้หญิงไทย 10 คนได้รับการช่วยเหลือจากสถานบริหารแห่งหนึ่งในพื้นที่พักอาศัยมั่งคั่งแห่งหนึ่งในปูเน่ ศูนย์กลางการผลิตยานยนต์และเทคโนโลยี ห่างจากเมืองหลวงทางการเงินของอินเดียอย่างมุมไปไปทางใต้ราว 150 กิโลเมตร
มูลนิธิ Fondation Scelles ในฝรั่งเศสประเมินว่า ปัจจุบันมีผู้ค้าบริการทางเพศอยู่ราว 40 ล้านคนทั่วโลก นักเคลื่อนไหวระบุว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่ถูกล่อลวงและบังคับเข้าสู่ระบบทาสกามโดยเหล่าแมงดาหรือกลุ่มค้ามนุษย์ สาเหตุหลักมาจากความยากจนและการขาดโอกาส
ผู้หญิงจากประเทศอย่างเนปาลและบังกลาเทศถูกขายให้เป็นแรงงานทางเพศในอินเดียมาเป็นเวลานาน แต่ตำรวจและนักรณรงค์ระบุว่า มีความต้องการผู้หญิงต่างถิ่นจากประเทศอื่นๆ เช่นไทยมากขึ้นในหมู่ผู้ชายชาวอินเดียและนักท่องเที่ยวต่างชาติ
“นี่เป็นครั้งแรกที่เราเห็นแนวโน้มเช่นนี้” จเรตำรวจ ซานเจย์ ปาทิล หัวหน้าหน่วยต่อต้านการค้ามนุษย์ในปูเน่ที่นำการตรวจค้นเมื่อเดือนกรกฎาคม กล่าว
“ผู้หญิงกลุ่มนี้ไม่มีการศึกษาและมาจากครอบครัวยากจน และครอบครัวที่อยู่บ้านเกิดพึ่งพารายได้จากพวกเธอ”
เขากล่าวภายหลังการเตือนเกี่ยวกับสถานบริการว่า เจ้าหน้าที่คนหนึ่งปลอมเป็นลูกค้าและพบผู้หญิงไทยอายุระหว่าง 25-40 ปีกำลังถูกค้าประเวณี ผู้จัดการสถานบริการดังกล่าวและลูกจ้างถูกจับกุมแล้ว
ผู้หญิงไทยซึ่งบางคนเป็นผู้ขายบริการทางเพศจากกรุงเทพและเมืองอื่นๆ ถูกล่อลวงด้วยโอกาสที่จะหาเงินได้มากขึ้นในอินเดีย จากที่พวกเธอหาได้เฉลี่ย 305 บาทต่อวันในไทย ในอินเดียพวกเธอสามารถหาได้เพิ่มเป็นสองเท่า
“ผู้หญิงที่เราช่วยเหลืออกมาทำงานอยู่ที่นี่มานาน 3-4 เดือนและมีเงินมากสุดถึง 100,000 รูปี (ราว 52,000 บาท) อยู่กับตัว” ปาทิล กล่าว และเสริมว่า ในตอนนี้เหยื่ออยู่ที่บ้านพักฟื้นรอการส่งกลับประเทศ
เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตไทยยืนยันว่า กำลังมีการช่วยเหลือหญิงไทยเพิ่มเติมจากสถานบริการทั่วประเทศนี้ รวมถึงในนิวเดลี เมืองท่องเที่ยวชัยปุระ และศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีอย่างบังคาลอร์
โครงการฟื้นฟูสมรรถภาพและการฝึกฝนทักษะจะถูกจัดเตรียมไว้ให้สำหรับเหยื่อเมื่อพวกเธอถูกส่งกลับประเทศ เจ้าหน้าที่ไทย กล่าว
