โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ซักเคอร์เบิร์ก48

ลงทุนแมน

อัพเดต 14 ม.ค. 2561 เวลา 11.24 น. • เผยแพร่ 14 ม.ค. 2561 เวลา 10.42 น. • ลงทุนแมน

ซักเคอร์เบิร์ก48 / โดย เพจลงทุนแมน
ตั้งแต่ต้นปีนี้คงไม่มีใครดังเท่า 2 เรื่องนี้
BNK48 และ มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก
แต่รู้ไหมว่า 2 เรื่องนี้มีอะไรที่เหมือนกัน
แน่นอนว่า คงไม่ใช่มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ไปงานจับมือ BNK48
แต่ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของแฟรนไชส์

มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก และ BNK48 มีหลักแนวคิดเดียวกัน คือ การสร้างแฟรนไชส์ให้อยู่ได้ตลอดไป

ถึงมาร์ค และ สมาชิก BNK48 จะไม่ได้ทำงานแล้ว กิจการก็ยังคงอยู่ได้

เฟซบุ๊คก็ยังมีคนเล่นต่อไป BNK48 ก็มีศิลปินหน้าใหม่เข้ามาในวงได้

สุดท้ายแล้วเราไม่รู้ว่าหรอกว่าตัวเราเองจะทำงานไปได้อีกนานเท่าไร

แต่ในวันหนึ่งที่เราไม่มีแรงที่จะทำงาน เรามีระบบ หรือ องค์กรอะไรไหมที่จะมาทำงานแทนเรา

มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก เรียกได้ว่าเป็นบุคคลมหัศจรรย์ที่รวยเร็วสุดในโลก และ ระบบที่เขาเป็นเจ้าของขายสินค้าให้กับลูกค้าได้มากสุดในโลก

สินค้าของเขาไม่ใช่อะไร เป็นหลายแพลตฟอร์มที่มีคนใช้รวมกันทั้งหมด 5,000,000,000 ผู้ใช้งาน

มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ตอนนี้อายุ 33 ปี หลายคนคงไม่รู้ว่าตอนนี้เขาเป็นเจ้าของเฟซบุ๊คแค่ 13% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด แต่ก็มากเพียงพอที่ทำให้ เขาเป็นคนรวยที่สุดอันดับ 5 ของโลก

แต่ถ้านับที่อายุแล้ว เขาเป็นบุคคล GEN Y ที่รวยที่สุดในโลก รวยกว่า Larry Page เจ้าของ Google ที่อายุ 44 ปีเสียอีก

การที่เขารวยตั้งแต่อายุน้อย ก็น่าจะดีตรงที่เขาน่าจะมีเวลาในทำอะไรหลายอย่างที่จะใช้เงินมหาศาลของเขาในการเปลี่ยนโลกใบนี้ไปได้อีกนาน

ทำไมซักเคอร์เบิร์กถึงรวยตั้งแต่อายุยังน้อย?

จริงๆแล้วไม่ใช่เขาโชคดี แต่ส่วนหนึ่งมาจากเขาเริ่มเร็ว

เขาเริ่มทำเฟซบุ๊คมาแล้ว 14 ปี หรือ ตั้งแต่เขาอายุ 19 ขวบ เขาไม่รอให้เรียนจบปริญญาตรีทั้งที่เขาเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยดังสุดของโลกชื่อ Harvard

ถ้าให้นึกถึงตัวเราเองว่าตอนเราอายุเท่านั้น เรากำลังทำอะไรอยู่ และถ้าเราเรียนเก่งแบบเขาเรากล้าพอที่จะออกมาทำอะไรเอง หรือจะรอให้เรียนจบดอกเตอร์ตอนอายุ 30 ก่อน

มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ไม่แคร์ใคร ออกจากมหาวิทยาลัย มาโฟกัสในสิ่งที่เขาเชื่อทันที

ถ้าเรามีลูกหลาน มาขอเราออกจากมหาวิทยาลัย เรากล้าพอจะที่ยินยอมให้เขาออกจากการเรียนหรือไม่ เรากล้าพอที่จะเชื่อในตัวพวกเขาหรือไม่?

รู้ไหมว่าวันที่มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก รู้ว่าตัวเองสอบติด Harvard เขาดีใจมาก แต่คนที่ดีใจกว่าคือพ่อของเขา ในคลิปวิดีโอที่พ่อเขาบันทึก คนที่ตะโกนร้องดีใจกว่ามาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก คือพ่อของเขา

ถ้าเราดีใจที่ลูกสอบติดมหาลัย แต่อีก 2 ปีต่อมา ลูกเดินมาบอกว่าอยากออกจากมหาลัยนี้เพื่อมาทำสิ่งที่ในตอนนั้นยังเป็นวุ้นอยู่ เราจะเชื่อในตัวลูกไหม?

อย่างไรก็ตาม มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ยังมีเรื่องที่น่าสนใจไม่แพ้ วอเร็น บัฟเฟตต์ ที่จะมีชื่อเสียงด้านการกุศล

วอเร็น บัฟเฟตต์ เป็นบุคคลที่รวยอันดับ 3 ของโลก และ ประกาศว่าจะบริจาคทรัพย์สินของเขาเกือบทั้งหมดให้การกุศล โดยไม่ยกให้ลูกหลานของเขา

เขาให้เหตุผลง่ายๆว่า ลูกหลานของเขามีเงินแค่เยอะพอระดับหนึ่งที่พอจะอยู่บนโลกนี้ได้อย่างสบายก็พอแล้ว ที่เหลือควรจะคืนให้กับสังคม

แล้ว มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก คืนอะไรให้กับสังคมบ้าง?

ปีที่แล้ว มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก บอกว่า เขามีแผนที่จะขายหุ้นของเขาเองทั้งหมดประมาณ 400,000 ล้านบาท เพื่อที่จะนำเงินมาใช้เรื่องการกุศลร่วมกับภรรยาของเขาชื่อ Priscilla Chan

ถามว่าเงินก้อนนี้เยอะมั้ย ก็คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 18% ของหุ้นเฟซบุ๊คที่เขาถืออยู่ทั้งหมด

ยังนึกไม่ออกว่ามหาเศรษฐีคนไทยคนไหน ที่มีเงิน 100,000 ล้านบาท จะบริจาคเงิน 18,000 ล้านบาทคืนให้กับสังคม..

ท่ามกลางข่าวที่เขาจะปรับระบบ News Feed ของเฟซบุ๊ค โดยให้ความสำคัญเรื่องครอบครัว และเพื่อน มาก่อน เรื่องข่าวสารจาก Page ต่างๆ

มีหลายคนคิดว่าเขาน่าจะปรับเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจในระยะยาว มากกว่า เรื่องจริยธรรม หรือ จิตวิญญาณที่เขาอยากเชื่อมคนทั้งโลกเข้าด้วยกัน

ทั้งหมดนี้ก็คงเป็นเรื่องอิสระที่แต่ละคนจะคิดไปในมุมมองที่แตกต่างกัน

ในโลกของเรานี้ จะมีบ้างไหมที่คนรวยจริงๆ จะไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง

หรือว่าเรื่องพวกนี้เป็นแค่เรื่องโลกสวยในอุดมคติ..

ถ้าในมุมมองของนักลงทุนแล้ว จะคิดแต่เรื่องเงินอย่างเดียว มันก็ถูกอยู่ส่วนหนึ่ง แต่ถ้ามองให้ลึกลงไปแล้วชีวิตนี้มันไม่ได้มีแค่เรื่องเงิน

ในโลกของเรานี้ มีอะไรบ้างไหมที่จะทำให้ชีวิตของเรามีความสุขมากกว่า เรื่องเงินพันล้าน บ้าน 100 ไร่ รถสปอร์ตหรู นาฬิการาคาแพง

เป้าหมายชีวิตของทุกคนอาจจะต่างกันไป

แต่ก็น่าจะมีไม่น้อย ที่จะมีความสุขจากคำว่า เขาจะทำอะไรให้โลกนี้ดีขึ้นได้บ้าง

ทั้งหมดนี้ก็คงต้องให้เวลาเป็นตัวตัดสินว่ามาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก เป็นมนุษย์ในอุดมคติ หรือ มนุษย์สร้างภาพลวงโลก

แต่ดูเหมือนว่าคนที่มีความสุขในช่วงนี้มากที่สุด คงไม่ใช่ มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก

แต่เป็นคนที่ไปงานจับมือ BNK48 ในสัปดาห์นี้..

———————- ถ้าต่อไปหาโพสของลงทุนแมนไม่เจอในเฟซบุ๊คเพราะ มาร์คซักเคอร์เบิร์กกีดกัน ให้ตั้ง see first หรือ ติดตามได้ที่ แอพ ลงทุนแมน ลงทุนแมนมี “แอพ” แล้ว โหลดฟรีที่ longtunman.com/app ทั้ง iOS และ android ต่อไปในแอพจะมีเรื่องที่ไม่มีในเฟซบุ๊ค เพราะลงทุนแมนอยากเขียนเยอะๆ แต่ถ้าเอาลงเฟซบุ๊คหมด จะถี่ไปและคนเห็นรำคาญ สุดท้าย โหลดแอพแล้วอาจจะรู้ว่าลงทุนแมนโอชิใครใน BNK48 ———————-

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0