โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

"คุณตา-คุณยาย" เข้าหลักสูตร "โรงเรียนผู้สูงอายุ"

คมชัดลึกออนไลน์ - ข่าวทั่วไป

เผยแพร่ 11 มิ.ย. 2561 เวลา 07.46 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้สูงวัยหลากหลายสายอาชีพ เข้าร่วมการอบรมตามโครงการ "โรงเรียนผู้สูงอายุ" รุ่นที่ 1 ตามหลักสูตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุของ สถาบันเสริมศึกษาและทรัพยากรมนุษย์ ม.ธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นหลักสูตรเพื่อให้ความรู้ในการใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างเท่าทันและมีความสุข ทั้งด้านสุขภาพ ด้านกฏหมาย สิทธิและสวัสดิการผู้สูงอายุ เทคโนโลยี การบริหารการเงิน รวมทั้งการใช้ชีวิตในสังคมร่วมกับคนรุ่นใหม่ โดยปัจจุบันประเทศไทยมีประชากรสูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งโครงการนี้จะช่วยลดปัญหาภาวะสูงวัยได้

โดยดร.สันทณี เครือขอน รองผู้อำนวยการฝ่ายบริการสังคม สถาบันเสริมศึกษาและทรัพยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยถึงโครงการดังกล่าวว่า ทางสถาบันมองเห็นว่ากำลังจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มขั้น และถ้าเราสามารถที่จะบริการอะไรก็แล้วแต่ให้แก่ผู้สูงอายุ น่าจะเป็นผลดี คือด้วย งานบริการสังคมและชุมชน ทางสถาบันเราจะทำกิจกรรมอยู่แล้ว โดยไม่หวังผลกำไร

ดร.สันทนี กล่าวต่อว่า กิจกรรมมุ่งเป้าหมายไปยังกลุ่มคนที่เป็นผู้สูงอายุ ปัญหาที่พูดถึงก็คือเวลาที่เราอายุมากขึ้นจะมีปัญหาด้านร่างกาย ช่วยเหลือตัวเองได้ยากขึ้น เคลื่อนไหวได้ช้ามี โอกาส โรคภัยไข้เจ็บ มีโอกาสล้มมีโอกาสที่จะทำให้ภาวะสุขภาพแย่ตามอายุที่สูงขึ้นโดยที่ตัวผู้สูงอายุเองไม่รู้ตัวเราและมองว่าถ้าสมมุติเขารู้ตัวหรือเขารู้องค์ประกอบของร่างกายเขาทั้งหมด เขาสามารถดูแลจิตใจเขาได้เขาสามารถที่จะใช้กลยุทธ์ต่างๆที่เราสอนที่โรงเรียนเอาไปใช้ดูแลตัวเอง นอกจากนี้เขายังสามารถเป็นตัวอย่างให้กับคนอื่นๆที่ยังไม่ได้เข้าโรงเรียน

"สิ่งที่เราจัดเตรียมไว้ให้ผู้สูงอายุก็คือเนื้อหาการเรียนที่จะเตรียมไว้เป็น 3 ส่วน ส่วนแรกส่วนที่จำเป็นต้องรู้หลักๆเลยก็คือภาวะสุขภาพ เรื่องยาการกินอาหาร กฎหมายพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับตัวผู้สูงอายุ มรดกพินัยกรรม สมมุติว่าฉันจะตายหรืออะไรฉันต้องทำยังไง ฝนแรกจะเป็นส่วนที่ควรรู้ต่อ มาส่วนที่ 2 จะเป็นการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับร่างกายที่จำเป็นการออกกำลังกาย การทำกายภาพบําบัด ทางโครงการเราจะสอนและจัดหากิจกรรมอุปกรณ์ให้เพราะเราเชื่อว่าในประเทศไม่มีโครงการไหนที่ทำเรื่องพวกนี้อาจารย์ เลยเพิ่มเรื่องที่ควรรู้ในการออกกำลังกายที่ถูกต้องเพื่อ ให้ป้องกันเรื่องภาวะสุขภาพได้และเขาจะได้จิตใจที่แข็งแรงขึ้นซึ่งในธรรมศาสตร์เองมีบุคลากรอยู่แล้วส่วนใหญ่ของเราเป็นครูธรรมศาสตร์ทั้งหมด ส่วนที่ 3 คือเรื่องความอยากรู้ คือผู้สูงอายุเขาจะมีความหลากหลายกลุ่มที่จะมีความอยากรู้ความต้องการจะเรียนรู้ ไม่เหมือนกัน ฉะนั้นเราจึงเปิดโอกาส ให้คนในกลุ่มมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมกับเราด้วย ในการเลือกที่จะอยากรู้เรื่องอะไรและอยากถามเรื่องอะไร เช่นเมื่อกี้เราได้ทำโหวตกันเรื่องกิจกรรมที่เกี่ยวกับงานสร้างสรรค์งานศิลปะ งานฝีมือเพราะกิจกรรมเหล่านี้จะทำให้สมองตื่นตัวมีผลต่อระบบประสาทจะทำให้จิตใจดีขึ้นคืองานศิลปะจะช่วยได้ผลโดยรวมเราอยากให้ผู้สูงอายุที่เข้ามาเป็นคนที่ต่างออกไปทั้งร่างกายและจิตใจที่เข้มแข็งพอที่จะทำให้เขาเป็นกำลังสำคัญของสังคม คือถ้าเค้าผ่านตรงนี้ไปได้ 25 ครั้งแล้วตัวเขาเองพัฒนาขึ้น เขาจะสามารถเป็นตัวอย่าง สามารถสอนคนในครอบครัวได้ ไม่ว่าจะเป็น สามีภรรยา พี่น้อง แม้กระทั่งคนในชุมชน ที่อยู่ใกล้เคียงว่าเห้ยมันมีความรู้แบบนี้อยู่นะเราทำแบบนี้ได้นะ เพื่อให้ผู้สูงอายุไม่เป็นภาระต่อสังคมคืออาจารย์คาดหวังตรงนี้"

ขณะที่ พล.ต.ต.ดร.ภาดล ประภานนท์ อายุ 62 ปี ปัจจุบันเปน ที่ปรึกษา บริษัท BTS หนึ่งในผู้เข้าร่วมอบรวมระบุว่า ตนเพิ่งเกษียณมาปีเศษๆ ช่วงปี 2559 เคยรับราชการเป็นตำรวจอยู่ เพราะเห็นหลักสูตรนี้จากโซเชียลมีเดียที่กระจายข่าวกันก็น่าสนใจ แต่ด้วยเรามีกิจการหลายอย่างหลังเกษียณเช่น เป็นที่ปรึกษาบริษัทต่างๆของเอกชนหลายที่ ก็เลยใช้เวลา 2-3 วันตัดสินใจ เมื่อตัดสินใจแล้วก็ลองโทรศัพท์ดู เลยทราบว่ารุ่นหลักสูตรแรกที่ท่าพระจันทร์เต็มแล้วนะจำนวน 35 คน หน้าสนามมากกว่านั้นด้วยซ้ำช่วงนั้น แล้วเขาบอกมีรุ่นที่รังสิตนี่แหละพอจะรับได้แต่เกือบเต็มแล้วนะเราเลยขอลงชื่อไว้ก่อน พอเช้าวันรุ่งขึ้นก็ไปถึงท่าพระจันทร์ตอนสายๆปรากฏว่าเจ้าหน้าที่บอกว่าเต็มแล้วทั้งที่รังสิตและท่าพระจันทร์ เราเลยบอกเขาว่าเราลงชื่อไว้แล้ว เขาเลยให้เราเข้าหลักสูตรก็เลยรีบชำระเงิน แสดงให้เห็นว่าหลักสูตรนี้ ให้ความสำคัญต่อผู้สูงอายุ และเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากๆ เพราะฉะนั้นส่งผลให้ผู้ที่เข้ามาอบรมหลักสูตรนี้เต็มอย่างรวดเร็ว

"ผมก็คิดว่าการตัดสินใจของผมในวันแรกคงไม่ผิด เพราะดูความกระตือรือร้นความใส่ใจของวิทยากร ผมเชื่อว่าตรงนี้ประสบความสำเร็จได้ อยากให้มีรุ่นต่อๆไป และอยากทดสอบดูว่าหลายสัปดาห์ที่เราเข้ามาอบรมตรงนี้จะสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเราได้ไหม และผมเชื่อว่าในวัยของการเริ่มต้นเกษียณ คงเป็นวัยที่เริ่มมีชีวิตอิสระทางด้านความคิด หลายสิ่งหลายอย่างที่เราละเลยในช่วงของการทำงาน 40 กว่าปีที่ผ่านมา มันอาจจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงในชีวิตเรามากขึ้น และเชื่อว่าได้คำตอบจากตรงนี้ได้ หลักสูตรเหล่านี้เป็นหลักสูตรที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน แต่เราเองก็ลืมไป ชีวิตต้องนี้คือความสุขทั้งสิ้น ทางจากตัวเราเองและคนรอบข้างเราด้วย ในขณะเดียวกัน ก็จะนำตรงนี้ไปถ่ายทอดให้คนรอบข้างต่อได้อีก"

---

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0