ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา หรือวิกฤติโรคระบาด “COVID-19” ได้สร้างผลกระทบรุนแรงให้กับทุกภาคส่วนและหลายประเทศ แน่นอนว่าธุรกิจเองก็พบความยากลำบากในการบริหารจัดการ รวมทั้งยอดขายที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด บางธุรกิจที่ขายผ่านทั้งหน้าร้านและออนไลน์อาจประสบปัญหายอดขายลดลง แต่ธุรกิจที่ขายผ่านหน้าร้านอย่างเดียวและไม่เคยขายออนไลน์มาก่อนยิ่งแล้วใหญ่ เพราะยอดขายจะกลายเป็น 0 ทันที หากไม่มีการปรับตัว
เชื่อว่าทุกคนรู้อยู่แล้วว่าซักวันนึงเราต้อง “ออนไลน์” แต่บางคนก็อาจจะมองข้าม หรือไม่ได้คิดที่จะ Take Action อะไรแบบเร่งด่วน จนเกิดวิกฤติครั้งนี้ขึ้น ห้างร้านต้องปิดให้บริการชั่วคราว แล้วธุรกิจเราจะทำยังไงต่อดี ก็จะเริ่มหันมาศึกษาการขายของออนไลน์ ซึ่งแน่นอนว่า คนที่รู้ก่อน ย่อมทำไปก่อนมากแล้ว ในภาวะแบบนี้ เราจะทำยังไงให้ธุรกิจเริ่มต้นออนไลน์ได้ทันท่วงที และมีประสิทธิภาพ วันนี้รี่มี 4 ขั้นตอนสำหรับผู้เริ่มต้นมาฝากค่ะ
1. ต้องมีหน้าร้านออนไลน์
ถึงหน้าร้านจะปิดชั่วคราว ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะขายของต่อไม่ได้ เพราะทุกวันนี้เทคโนโลยีพัฒนาไปมาก มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งการสร้างหน้าร้านออนไลน์ ทำเป็นแคตตาล็อก รับชำระเงินออนไลน์ ไปจนถึงบริการขนส่งที่หลากหลาย ส่งของได้ทุกประเภทไม่ว่าจะชิ้นเล็กหรือใหญ่ ข้อจำกัดน้อยลงกว่าสมัยก่อน ซึ่งการจะขายของออนไลน์ จุดเริ่มต้นอยู่ที่ “การสร้างหน้าร้าน” ตัวอย่างของการสร้างหน้าร้านที่ง่ายและใช้บริการได้ฟรี เช่น
-การสร้างหน้าโปรไฟล์ (Profile Page) เพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ
ไม่ว่าธุรกิจของคุณจะขายสินค้าหรือเป็นบริการ ก็สามารถใช้งานฟีเจอร์หน้าโปรไฟล์ (Profile Page) บน LINE Official Account ได้ โดยหน้าโปรไฟล์นี้ จะทำหน้าที่เหมือนเป็นมินิเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจ เช่น เบอร์โทร แผนที่ ช่วงราคา หรือจะกำหนดส่วนต่าง ๆ เองได้ เช่น การใส่รูป ข้อความ จัดรูปแบบได้สวยงาม แถมยังใส่ลิ้งก์ไปยังเว็บไซต์ได้อีก ทั้งหมดนี้ทำได้เอง ฟรี! โดยไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดใด ๆ ทั้งสิ้นค่ะ
- การสร้างร้านค้า MyShop และเชื่อมต่อกับ LINE Official Account
เพียงแค่คุณมีบัญชี LINE Official Account ก็จะสามารถสร้างหน้าร้านออนไลน์ได้ง่าย ๆ สามารถจัดการสต๊อกสินค้า ให้รายละเอียด ราคา ใส่รูปภาพ และที่สำคัญคือ ถ้าหากมีลูกค้าทักมาสั่งซื้อสินค้า ธุรกิจก็สามารถเพิ่มสินค้าและส่งใบเรียกเก็บเงินได้เลยทันที ยิ่งถ้าเชื่อมต่อกับระบบรับชำระเงินของ Rabbit LINE Pay ด้วย จะยิ่งอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าได้มากขึ้น เรียกว่าครบ จบ ในที่เดียว ลูกค้าจ่ายเงินสะดวก คนขายก็รับเงินได้ง่ายเช่นกันค่ะ
2. ต้องหาลูกค้าให้เจอ
แน่นอนว่าธุรกิจย่อมรู้ดีอยู่แล้วว่าลูกค้าคือใคร แต่การจะหาลูกค้าบนโลกออนไลน์ก็เป็นอีกเรื่องนึงที่ต้องศึกษาและเลือกให้แม่นยำ ปัจจุบันนี้ผู้ใช้ LINE Official Account สามารถซื้อโฆษณาบน LINE เพื่อให้โฆษณาของตนไปปรากฎอยู่บน Timeline หน้าแชท หรือ LINE Today ที่เรียกว่า LINE Ads Platform (LAP) เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ สามารถเลือกให้คนเห็นโฆษณาแล้วกดเข้าไปซื้อสินค้าบนเว็บไซต์ หรือให้กดเพิ่มเพื่อน ทักมาสั่งซื้อสินค้าก็ได้ โดยผู้ที่สนใจใช้งานจะต้องซื้อโฆษณาผ่านเอเจนซี่ที่อยู่ในนี้ https://www.linebiz.com/th/partner/line-ads-platform/
ตัวอย่างการตั้งค่าโฆษณาบน LINE Ads Platform (LAP) จะมีรายละเอียดคร่าว ๆ ประมาณนี้ค่ะ
- เลือกวัตถุประสงค์โฆษณา
ในระบบจะมีวัตถุประสงค์ให้เลือกเพื่อตอบโจทย์ที่แตกต่างกันของแต่ละธุรกิจ เช่น ถ้ามีเว็บไซต์ก็สามารถเลือก “การเข้าชมเว็บไซต์” หรือถ้าเน้นเพิ่มผู้ติดตาม LINE Official Account ก็เลือก “เพิ่มเพื่อน” ได้เลย
- เลือกกลุ่มเป้าหมาย
ซึ่งในส่วนถัดมาผู้ลงโฆษณาจะต้องเลือกกลุ่มเป้าหมาย ตรงนี้ให้ลองนึกภาพลูกค้าของเราไว้ แล้วเอามาแปลงเป็นตัวเลือกที่ทาง LINE มีให้ สามารถเลือกจากพื้นที่เป็นระดับจังหวัด เลือกเพศ อายุ ระบบปฏิบัติการที่ใช้ รวมทั้งความสนใจต่าง ๆ ซึ่งเก็บจากพฤติกรรมของผู้ใช้งานจริง
- เลือกรูปแบบโฆษณา
แล้วท้ายสุดค่อยมาสร้างสรรค์ตัวโฆษณา สามารถใส่เป็นรูปภาพและข้อความสั้น ๆ และเพิ่มปุ่ม Call-to-action หรือปุ่มกระตุ้นการตัดสินใจได้อีกด้วย
3. ต้องนำเสนอสินค้าให้โดนใจ
ในส่วนนี้ ทาง LINE เองก็มีลูกเล่นมากมายให้ธุรกิจได้เลือกใช้ เพราะการ บรอดแคสต์ หรือส่งข้อความแบบตัวอักษรอาจดูน่าเบื่อเกินไป ไม่อาจสร้างความน่าสนใจให้กับลูกค้าได้ อาจลองเปลี่ยนมาใช้
- Rich Message
การส่งรูปภาพขนาดเต็มจอที่สามารถแบ่งช่องเป็นสัดส่วนตาม Template ที่มีให้ (ดูภาพด้านล่าง) และสามารถใส่ Action ให้กดแล้วส่งคูปอง หรือพาคนคลิกเข้าไปยังเว็บไซต์ได้ ในส่วนนี้ธุรกิจสามารถดีไซน์ได้อิสระ ไม่มีข้อจำกัดใด ๆ แต่ขอให้ขนาดเป็นภาพจัตุรัสตามตัวอย่างก็พอค่ะ
- Rich Video Message
การส่งวิดีโอขนาดเต็มจอที่จะเล่นเองอัตโนมัติ บางครั้งเราจำเป็นต้องสาธิตการใช้สินค้า หรือสื่อสารในรูปแบบภาพเคลื่อนไหว เจ้าตัวนี้ก็จะมาช่วยคุณ และเมื่อดูจนจบแล้วยังสามารถฝังลิ้งก์ไว้ที่ปุ่มเพื่อส่งไปที่เว็บไซต์ได้ด้วยเช่นกัน
- ข้อความแบบการ์ด (Card-Based Message)
การส่งข้อความรูปแบบใหม่ล่าสุดที่ทาง LINE เพิ่มมาให้สำหรับผู้ใช้ LINE Official Account ที่เรียกว่า ข้อความแบบการ์ด (Card-Based Message) สามารถใส่การ์ดให้ลูกค้าเลื่อนดูได้สูงสุด 9 การ์ด + 1 การ์ดปิดท้าย โดยมีรูปแบบให้เลือกหลากหลาย นำไปประยุกต์ใช้ได้หลายแบบ และแน่นอนว่าสามารถใส่ลิ้งก์ได้ด้วยเช่นกัน แถมยังใส่ได้ถึง 2 ลิ้งก์ด้วย ตรงนี้อาจจะนำไปใช้ประโยชน์เช่น ใส่ลิ้งก์ช้อปสินค้า กับลิ้งก์อ่านรีวิว เพื่อช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น (ตามภาพตัวอย่าง)
- ริชเมนู (Rich Menu)
สำหรับใครที่ไม่ได้มีการบรอดแคสต์ บ่อย LINE ก็มีอีกฟีเจอร์ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า แค่เข้ามาที่หน้าแชทของ LINE Official Account ก็จะเจอกับเมนูที่แสดงผลค้างไว้ตลอดเวลา ตรงนี้ธุรกิจสามารถแบ่งช่อง และดีไซน์ให้สวยงามเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าอยากกดได้อิสระ
ลองดู Template ทั้งหมดได้ที่นี่เลยค่ะ
และถ้าคุณกำลังประสบปัญหาในการ Design อยู่ล่ะก็ ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะ LINE มีเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณ Design Rich Menu แบบง่ายและรวดเร็วมาให้ด้วย คลิกที่นี่ได้เลย
4. ต้องรักษาลูกค้าไว้ และกระตุ้นการซื้อซ้ำ
ถ้ายังจำความลำบากกว่าจะหาลูกค้ามา 1 รายได้ การรักษาเค้าไว้ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ๆ ธุรกิจต้องมีการสื่อสารที่สม่ำเสมอกับลูกค้า เข้าใจความต้องการและนำไปปรับปรุงสินค้าหรือบริการ รวมทั้งยังสามารถออกโปรโมชันมากระตุ้นการซื้อซ้ำได้อีกด้วย
สำหรับรี่คิดว่า LINE Official Account มีฟีเจอร์เด็ดที่ตอบโจทย์ในเรื่องนี้มาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น
- การจัดการแชทด้วยแชทแท็ก (Chat Tag)
ธุรกิจสามารถติดป้ายกำกับให้ลูกค้าแต่ละคนได้ แถมยังเอาไปใช้เป็นตัวเลือกในการ บรอดแคสต์ ได้อีก เช่น ติดแท็ก (Tag) ว่า VIP ให้ลูกค้าที่ช้อปกับเราบ่อย ๆ แล้วเลือก บรอดแคสต์ โปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้า VIP เท่านั้น การทำแบบนี้จะยิ่งทำให้ลูกค้ากลุ่มนี้รู้สึกถึงความใส่ใจเป็นพิเศษ หรือได้บริการที่เหนือระดับกว่า และเกิดความประทับใจกับเรา ไม่อยากจะเปลี่ยนไปช้อปที่อื่น
- การแจกคูปอง (Coupons)
ผู้ใช้ LINE Official Account สามารถสร้างคูปองเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อให้กับลูกค้าใหม่ หรือการกลับมาซื้อซ้ำของลูกค้าเก่าได้ด้วยเช่นกัน เพียงแค่สร้างคูปองและเขียนกฎกติกาการใช้คูปองไว้ให้รัดกุม ธุรกิจสามารถกำหนดได้เองทุกอย่าง และอย่าลืมเขียนหมายเหตุการณ์ใช้คูปองไว้ด้วยนะคะ
ตัวอย่างหมายเหตุสำคัญที่ควรเขียน
- คูปองไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
- ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนของรางวัลโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
- ไม่สามารถใช้คูปองนี้ร่วมกับโปรโมชันอื่น
- ทำบัตรสะสมแต้ม (Reward Cards)
แน่นอนว่าธุรกิจคงไม่อยากให้ลูกค้าเปลี่ยนใจไปซื้อกับแบรนด์อื่น บัตรสะสมแต้มจึงเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ไม่ควรพลาด เพราะการแจกบัตรสะสมแต้มเป็นเหมือนตัวช่วยลดอัตราการบล็อก (Block Rate) ชั้นดี เหตุผลคือ เมื่อลูกค้าได้รับแต้มไปแล้ว บัตรสะสมแต้มจะมีอายุตามเวลาที่ธุรกิจตั้งค่าไว้ (สามารถกำหนดให้สั้นหรือยาวได้เองตามใจ เช่น ถ้าต้องการให้ลูกค้ารีบสะสมเพิ่ม หรือรีบมาซื้อเพิ่ม ก็ตั้งเวลาให้สั้นลง) และอีกเหตุผลคือ ลูกค้าจะสามารถใช้แต้มแลกของรางวัลได้ก็ต่อเมื่อลูกค้ายังติดตาม LINE Official Account ของเรา และไม่ได้บล็อกไปก่อน ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับธุรกิจแล้วแหละค่ะว่าจะจัดโปรโมชันแจกแต้ม แจกรางวัลอย่างไรให้มัดใจลูกค้าไว้ได้
เห็นหรือยังคะว่าแค่มี LINE Official Account เราก็สามารถเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ได้ เพราะเค้ามีฟีเจอร์มากมายที่ให้เราได้ลองเล่น แถมยังตอบทุกโจทย์ของธุรกิจได้ตั้งแต่การหาลูกค้าใหม่ ปิดการขาย และกระตุ้นการซื้อซ้ำ รักษาลูกค้าไว้กับเรานาน ๆ และด้วยฟีเจอร์ที่จัดเต็มแบบนี้ ถ้าไม่ลองใช้งานจริงก็อาจจะลืมกันไปบ้าง รี่เชื่อว่าการเรียนรู้ที่เห็นผลเร็วที่สุดคือการลงมือทำ ไม่ต้องรอค่ะ เริ่มทำตั้งแต่ตอนนี้เลย ถ้าเกิดปัญหา สงสัย หรืออยากได้ไอเดียเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ LINE Official Account สามารถทักมาสอบถามได้ที่ @digitorystyle หรือติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ผ่าน www.digitorystyle.com ได้เลยค่ะ
ช่องทางติดต่อ
LINE: https://lin.ee/f4qu87nE Email: hello@digitorystyle.com Tel: 02-055-1390
.
รี่ --- วณิชชา วรรคาวิสันต์
ผู้ก่อตั้ง DIGITORY สถาบันสอน/ให้คำปรึกษาด้านการตลาดออนไลน์ และ Go Online เอเจนซี่ดูแลการตลาดออนไลน์ครบวงจร จบการศึกษาจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สาขาการตลาด และเคยเป็นแม่ค้าออนไลน์มาตั้งแต่สมัยเรียน
