ไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากเห็นลูกร้องไห้ ยิ่งเวลาที่พาลูกออกไปนอกบ้านแล้วเจ้าตัวเล็กเกิดอาการร้องไห้งอแงขึ้นมา คุณพ่อคุณแม่ยิ่งต้องพยายามทำทุกทางเพื่อหยุดการร้องไห้ของลูกให้เร็วที่สุด
แต่คุณพ่อคุณแม่รู้ไหมว่า ประโยคที่พูดเพื่อบอกให้ลูกหยุดร้องไห้นั้น เมื่อเอามาใช้พูดกับลูกซ้ำๆ อาจทำให้ลูกหยุดร้องไห้ได้ก็จริง แต่ก็อาจจะทิ้งความรู้สึกบางอย่างไว้ในจิตใจลูกโดยไม่รู้ตัว
และเพื่อช่วยเตือนสติไม่ให้คุณพ่อคุณแม่ใช้คำพูดซ้ำๆ ในการกดดันให้ลูกหยุดร้องไห้มากเกินไป เราจึงรวบรวม 5 ประโยคที่พ่อแม่ชอบใช้พูดกับลูก และบอกว่าประโยคนั้นๆ สามารถส่งผลอย่างไรต่อใจลูกได้บ้าง
1. “ร้องไห้ทำไม อายคนอื่นเขา”
แทนที่จะถามหรือหาทางแก้ปัญหาที่ทำให้ลูกร้องไห้ แต่คุณพ่อคุณแม่กลับเลือกใช้วิธีบอกแกมออกคำสั่งว่าให้ลูกหยุดร้องไห้ เพราะไม่อยากอายคนอื่น อาจทำให้ลูกรู้สึกว่าคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้ใส่ใจที่ปัญหาหรือความต้องการของลูก
หากใช้วิธีนี้บ่อยๆ จะทำให้ลูกคิดว่าการร้องไห้ของตัวเองไม่มีความสำคัญในสายตาคุณพ่อคุณแม่ และถ้าเขาไม่หยุดร้อง คุณพ่อคุณแม่ก็จะอายคนอื่นจนต้องยอมแพ้หรือตามใจเขาไปในที่สุด
2. “หนูเป็นคนเก่ง ต้องไม่ร้องไห้”
ภาพจำที่ผู้ใหญ่มักจะบอกเด็ก ว่าเป็นคนเก่งต้องไม่ร้องไห้ อาจทำให้ลูกมีกำลังใจพอที่จะฮึบ และกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้ก็จริง แต่ที่จริงแล้ว อาจเป็นการปลูกฝังความคิดที่ทำให้ลูกเข้าใจว่า การร้องไห้เป็นเรื่องของคนอ่อนแอหรือคนไม่เอาไหน ซึ่งต่อไปแทนที่ลูกจะรู้สึกเห็นใจอาจกลายเป็นเด็กที่มีทัศนคติด้านลบเมื่อเห็นคนอื่นร้องไห้
3. “เป็นลูกผู้ชายต้องไม่ร้องไห้”
จริงๆ แล้วไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็มีสิทธิ์ที่จะแสดงความรู้สึกของตัวเองออกมาด้วยกันทั้งนั้น แม้คุณพ่อคุณแม่ย่อมอยากให้ลูกชายเป็นเด็กที่มีความอดทนหรือเข้มแข็งมากเท่าไรก็ตาม ก็ต้องยอมรับว่าบางครั้งคุณต้องยอมให้ลูกชายร้องไห้และยอมรับความผิดหวังเสียใจของตัวเองบ้าง
4. “หยุดร้องไห้ได้แล้ว!” หรือ “หยุดร้องเดี๋ยวนี้!”
บางครั้งการเอาชนะให้ลูกหยุดร้องไห้ด้วยการพูดหรือออกคำสั่งด้วยการขึ้นเสียง อาจทำให้ลูกยอมหยุดร้องไห้เพราะความกลัว แต่นั่นจะทำให้คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้แสดงความรักและความใส่ใจที่จะให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ลูกเกิดปัญหา
5. “คุณพ่อคุณแม่ไม่เคยร้องไห้ ถ้าหนูเป็นลูกพ่อกับแม่ก็ต้องไม่ร้องไห้เหมือนกัน”
คุณพ่อคุณแม่อาจพยายามทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกเห็น แต่ต้องยอมรับว่า คุณพ่อคุณแม่เองก็ย่อมมีวันที่ผิดพลาดเสียใจและร้องไห้ได้เช่นกัน การกดดันให้ลูกเข้าใจว่าการไม่ร้องไห้ เป็นส่วนหนึ่งของการเป็นลูกที่ดี จะทำให้ลูกรู้สึกกดดันและเป็นเด็กที่ไม่ยอมรับความรู้สึกของตัวเองได้
หากคุณพ่อคุณแม่เคยพยายามหาวิธีที่จะทำให้ลูกหยุดร้องไห้ให้เร็วที่สุด เราอยากให้ลองเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับการร้องไห้ของลูกเสียใหม่ เพราะการร้องไห้ไม่ได้มีแต่ผลเสียเท่านั้น แต่อารมณ์และความรู้สึกทางลบเป็นสิ่งที่ไม่ว่าจะเด็กผู้หญิงหรือเด็กผู้ชายก็มีสิทธิ์ที่จะแสดงออกมาได้ และการร้องไห้ไม่ใช่การแสดงถึงความอ่อนแอเสมอไป แต่ยังช่วยทำให้รู้สึกดีขึ้น ลดความเครียด และความกดดันได้
อ้างอิง
