เพชรบูรณ์-หนุ่มโพสต์คลิปนาทีรถยนต์เก๋งลากสุนัขไปทาง ขณะเจ้าตัวเป็นผู้สูงอายุที่ไม่รู้ว่ามีสุนัขถูกผูกติดอยู่หลังรถ คาดเป็นหลานนำมาผูกไว้ ล่าสุดคลิปถูกลบแล้ว จากคลิปวิดีโอนาทีที่คนบันทึกภาพขับรถกระบะ ตามรถยนต์เก๋ สีดำที่วิ่งบนมาถึงบริเวณหน้าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคหล่มสัก จากนั้นมีการตะโกนบอกให้คนขับรถยนต์ทำการจอดรถ โดยคนขับเป็นชายสูงวัย ทำการเปิดประตูรถแล้วเดินไปด้านท้ายของตัวรถ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวถูกระบุ พื้นที่อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ จากนั้นก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ทั้งในเชิงต่อว่า และเห็นใจแบบมีเหตุผล ต่อมาผู้สื่อข่าว พยายามจะติดต่อไปยังผู้โพสต์คลิป ทราบชื่อคือ นายกฤชพล แก้วเมือง 20 ปี ผู้โพสต์บอกว่า ตอนนี้ได้คลิปวีดิโอออกจากระบบแล้ว เพราะตนเชื่อว่าลุงแกไม่รู้จริง ๆ ว่ามีคนแกล้งนำสุนัขมาผูกเอาไว้ที่ท้ายรถโดยที่ตัวแกไม่รู้ และไม่มีเจตนาจะให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ส่วนคนที่ผูกสุนัข น่าจะเป็นคนแถวบ้านซึ่งอาจเป็นหลานของแกเอง แถมยังมีคนเข้าไปด่าลุงแกเป็นจำนวนมาก ตนจึงได้ลบคลิปทิ้ง ส่วนลุงคนขับรถเก๋ง ล่าสุดยังไม่ทราบว่าเป็นใคร จากการสัมภาษณ์ ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ตนเองเดินทางมากับผู้ที่โพสต์คลิป เพื่อมาส่งของในตลาดอำเภอหล่มสัก และมาเจอเหตุการณ์ดังกล่าวเข้าโดยบังเอิญ ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นวานนี้ (25 ก.ย.) ตอนที่เห็นยังไม่แน่ใจว่าเป็นอะไร พอขับรถเข้าไปใกล้ ๆ ก็รู้ว่าเป็นสุนัข จึงขับรถเข้าไปประกบ เพื่อให้แกจอดรถ โดยก่อนหน้าก็มีรถคันอื่นพยายามที่จะบอกแก แต่แกไม่ได้ยิน ซึ่งจากพฤติกรรมแกไม่รู้ว่ามีสุนัขถูกผูกติดอยู่ที่หลังรถจริงๆ พอแกทราบแกก็ลงไปอุ้มสุนัขทั้งที่ตามตัวมีเลือดอยู่ และที่รู้คือแกพาน้องหมาไปหาสัตวแพทย์เพื่อทำการรักษาแล้ว ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังลุงคนขับรถคันดังกล่าว ทำให้ทราบชื่อคือนายบุญช่วย มาตา อายุ 77 ปี อดีตกำนันตำบลหนองไขว่ ได้ให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตาว่า ตนเองเป็นคนเอาสุนัขชื่อเจ้าเฟิร์ส ไปผูกไว้ที่ท้ายรถ เพื่อแยกกับหมาอีกตัว โดยเอาหมาอีกตัวไปผูกที่ต้นเสา ที่ต้องแยกกันเพราะว่าเดี๋ยวจะกัดกัน ก่อนเกิดเหตุแกจะรีบออกไปซื้อของเพื่อมาทำกรงให้หมา เลยลืมว่าผูกเจ้าเฟิร์สไว้ท้ายรถ ตนเองเลี้ยงมาก็รักมันเหมือนลูก รู้สึกเสียใจมากที่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น ก็ได้แต่โทษตัวเองทำไมถึงขี้หลงขี้ลืมขนาดนี้ จากนั้นก็พาไปดูหมาไทยหลังอานเพศผู้ชื่อเฟิร์ส ตัวที่คุณลุงเอาไปผูกไว้กับท้ายรถ เบื้องต้นเจ้าเฟิร์สรับบาดเจ็บที่เท้า 4 เท้า คอมีแผลลึก หน้าอกกับข้างลำตัวมีบาดแผล ก็อยากจะขอโทษสังคมที่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น รู้สึกเสียใจมาก ขณะที่ นางเกต มาตา อายุ68 ปี ภรรยา เล่าว่า สามีแกขี้หลงขี้ลืม เหมือนคนเป็นอัลไซเมอร์ แกไม่ได้ตั้งใจให้เป็นอย่างนี้ ซึ่งเมื่อสามีกลับมาบ้านก็เอาแต่ร้องไห้สงสารเจ้าเฟิร์ส เลี้ยงมาก็รัก ตอนที่สามีขับรถออกจากบ้านเพื่อไปซื้ออุปกรณ์ทำกรงหมา ตัวเองได้เข้าไปหลังบ้านจึงไม่ทันเห็นว่าเจ้าเฟิร์สอยู่ท้ายรถ ถ้าตนยังอยู่หน้าบ้านก็คงเห็นและบอกสามีแล้ว
