ศาลชั้นต้นได้ตัดสินคดีส่งออกไอซ์ จำนวนเกือบ หนึ่งพันกิโลกรัมโดยนายสุบรรณ มหาชนนท์ อดีตผู้สมัคร สส.แบบบัญชีรายชื่อ ถูกตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต แต่ลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 50 ปี ขณะที่ชาวต่างชาติ อีก2 คน ถูกตัดสินให้ประหารชีวิตแต่ลดลงเหลือจำคุกตลอดชีวิต คดีนี้ใช้เวลาสืบสวนเกือบ1ปีโดยช่วงแรกไม่สามารถหาความเชื่อมโยงของกลุ่มจำเลยได้ กระทั่งเกิดเหตุเพลิงไหม้จนตู้คอนเทนเนอร์เสียหาย จึงพบผู้กระทำผิดชัดเจน ก่อนที่จะถูกตัดสินในวันนี้ ตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 ใช้เวลาติดตามพฤติกรรมจำเลยทั้ง 4 คน เพื่อหาความเชื่อมโยงนานเกือบปี เนื่องจากพบพฤติกรรมต้องสงสัยของชาวจีนกลุ่มหนึ่ง เดินทางเข้าออกไทยและเดินทางไปตามแนวชายแดน รวมทั้งได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการส่งยาเสพติด ออกนอกประเทศ กระทั่งกลางเดือนมิถุนายน 2562 พบหลักฐานชิ้นสำคัญ เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ท่าเรือแหลมฉบังจึงเป็นคำตอบว่าสินค้าที่บรรจุในตู้คอนเทนเนอร์ที่สำแดงเป็นรองเท้าแตะและตะเกียบเป็นเพียงการตบตาเจ้าหน้าที่ แต่แท้จริงเป็น ไอซ์เกือบ1000 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้สรรพกำลังทั้งสะกดรอยตาม ซุ่มดู กระทั่งพบนายฮวง เกาเซียง อายุ 25 ปี ชาวจีน นายสุบรรณ มหาชนนท์ อายุ 58 ปี อดีตผู้สมัคร ส.ส. นายจ้อย แซ่โฟ้ง สัญชาติไทยอายุ 62 ปี และนายโชว ชิงชู่ อายุ 45 ปี ชาวจีนบริเวณหน้าตู้คอนเทนเนอร์ มีการเปิดตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อดูสินค้า เจ้าหน้าที่ปฎิบัติการปิดล้อม ควบคุมตัวผู้ต้องหาได้4คนในที่เกิดเหตุ โดยในชั้นสอบสวนนายสุบรรณให้การปฏิเสธ ส่วนนายจ้อย เป็นเจ้าของโกดังย่านร่มเกล้า ซึ่งรู้จักกับนายสุบรรณ และได้เช่าโกดังเพื่อนำยามาพัก คดีนี้พนักงานอัยการฝ่ายคดียาเสพติด 9 เป็นโจทก์ฟ้องจำเลยทั้ง 4 คน ฐานสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด หรือยาไอซ์ ร่วมกันมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และพยายามส่งออกนอกราชอาณาจักรเพื่อจำหน่าย // โดยนายสุบรรณและนายจ้อย ร้องขอความเป็นธรรม แต่ศาลเห็นว่าเป็นคำร้องที่เลื่อนลอยเพราะ จำเลยทราบดีว่าขณะเกิดเพลิงไหม้ สินค้าที่บรรจุมีการตกหล่นออกมา เป็นเกล็ดเมทแอมเฟตามีน แต่กลับช่วยเหลือให้มีการส่งออก แทนที่จะไปแจ้งเจ้าหน้าที่ และยังมีคำพูดว่าจะแบ่งเงินให้ใช้ ศาลจึงเห็นว่าจำเลยกระทำผิดจริง ตัดสินนายฮวง และนายโชว ประหารชีวิต ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต ส่วนนายสุบรรณและนายจ้อยจำคุกตลอดชีวิต ลดโทษเหลือจำคุก 50 ปี และริบของกลางทั้งหมด พล.ต.ต.วัชระ ทิพย์มงคล ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด3 ระบุว่าคดียาเสพติดต้องใช้เวลา เพราะมีการตัดตอน ตำรวจต้องหาความเชื่อมโยงให้ได้ แม้จะจับระดับผู้สั่งการจนนำไปสู่การลงโทษได้ แต่คดีนี้เป็นเครือข่ายใหญ่ ตำรวจได้ออกหมายจับผู้ต้องหา เพิ่มอีก 3 คน แต่หลบหนี และนายทุนซึ่งเชื่อว่าอยู่ต่างประเทศยังมีการเคลื่อนไหวอยู่
