/ซีน นี้ มา -ว่าด้วยการหยิบยกซีนหรือฉากหนังบางฉาก มาขยายความน่าสนใจให้ใหญ่ขึ้น
คำเตือนสำหรับหนังเรื่องนี้ : ไม่มีความเว่อร์วัง หวือหวา แต่ดูจบแล้วหน้าชาไปตาม ๆ กัน
โรเบิร์ต บิลอตต์ ทนายฝีมือดีจากซินซินเนติ เป็นทนายแก้ต่างให้บริษัทเคมีภัณฑ์ ดูปองท์ (DuPont) มาโดยตลอด แต่กลับต้องมาตีแผ่ความมืดดำแบบหมดเปลือกของบริษัทยักษ์ใหญ่นี้ จากการเสียชีวิตอย่างไร้สาเหตุของสัตว์ในไร่ของรัฐเวสเวอร์จิเนีย (รัฐที่เขาเคยอาศัยอยู่ในวัยเด็ก) นำไปสู่อันตรายจากแหล่งน้ำที่เราใช้ดื่มกิน
เรื่องจริงจากคดีความบนบทความในหน้าหนังสือ The New York Times ที่ตีแผ่ความน่าเกลียดชังของบริษัทมหาอำนาจ เก็บงำความโสมมไว้อยู่เบื้องบน สารเคมีที่แทรกซึมในชีวิตประจำวัน เริ่มจากชุมชนหนึ่ง ไปจนถึงคนทั้งโลก ที่เราก็ดิ้นไม่หลุด ต้องก้มหน้ารับชะตากรรมนี้อย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก…
ดูปอนท์แพร่สารพิษให้ชาวบ้านกว่า 70,000 คนตลอด 40 ปีที่ผ่านมา…
‘น้ำประปาดื่มได้’ ที่จริงนั้น ดื่มได้จริงหรือ? ‘กระทะเทฟลอนทอดอะไรก็ไม่ติดกระทะ’ ที่จริงแล้วสารเคมีที่เคลือบกระทะอยู่นั้น มันคืออะไร? เป็นอันตรายต่อเรามั้ย?
PFOA หรือ C-8 คือชื่อแทน กรดเปอร์ฟลูโอโรออคตาโนอิค ซึ่งเป็นสารเดียวกับสารเคลือบกระทะเทฟลอน กระทะที่เคยฮิตกันในสมัยนึง ถ้าถามว่าอันตรายยังไง ก็คงให้ลองนึกว่า ‘จะเป็นยังไงถ้าเราเผลอกลืนยางรถยนต์เข้าไป ?’ กับคนที่ได้รับสารจำพวกนี้เป็นเวลานาน เช่นการดื่มสารที่เจือปนอยู่ในน้ำ จะกัดกร่อนฟัน ทำให้ฟันไม่เป็นรูป และมีสีดำ เป็นสารบ่อเกิดโรคมะเร็ง ยิ่งร้ายกว่าเมื่อพนักงานหญิงของบริษัทดูปองท์เอง เมื่อตั้งครรภ์ก็เกิดภาวะทารกหน้าตาผิดรูป ในหนังค่อย ๆ ปล่อยพิษร้ายของสารนี้ออกมา สร้างความสะเทือนใจเป็นระยะ และความจริงก็ทำให้เราขนหัวลุก เมื่อรู้ว่า‘99 % ในเลือดของเราทุกคนมีสารพิษนี้ปนเปื้อนจนหมดแล้ว…’
‘อย่าทำให้เค้ารู้สึกล้มเหลวอีก’
อีกหนึ่งตัวแปรสำคัญของเรื่องคือ ซาร่า - ภรรยาของร็อบ ที่รับบทโดย แอนน์ แฮททาเวย์ 13 ปีที่ชีวิตพัวพันกับคดีน้ำเน่าอันยาวนาน ซึ่งก็มีอีกด้าน ที่ร็อบต้องรับบทเป็นหัวหน้าครอบครัว พร้อมลูกชายอีก 3 คน ที่เห็นจะเป็นไปได้ยาก ถ้าไม่ได้รับการซัพพอร์ตที่ดีจากเพื่อนคู่คิดที่เข้าใจ ซาร่า พยายามทำความเข้าใจ กับความมุ่งมั่นที่สามีอยากสู้คดี เพื่ออีกหลายชีวิตที่ถูกระบบซัดจนเรียบ จนปัญหาของครอบครัวนั้น ถือว่าเป็นรอง เธอกลับรับมืออย่างแข็งขัน ไม่ให้ร็อบได้หนักอกหนักใจ เรียกได้ว่าเป็นภรรยาซัพพอร์ตเตอร์ ที่ยืนหนึ่งจริง ๆ
.
จากเรื่องจริงในประเทศที่ดูเหมือนจะศิวิไลซ์ที่สุดในโลกใบนี้ จึงได้กลับมาถามตัวเองบ้างว่า กับประเทศไทยในวันที่หน้ากากกันฝุ่นดูจะมีค่ามากกว่าเงินตรา ยาต้านไวรัสที่ยังคิดค้นไม่สำเร็จ ความหวาดระแวงที่เบื้องบนได้มอบให้ประชาชนนั้น มันสมควรแล้วหรือ? ใครล่ะที่จะมารับผิดชอบกับสาธารณูประโยชน์ที่ประชาชนอย่างเราควรได้รับ หรือมันช้าไปมั้ย ที่เราจะเลิกหาแพะ แล้วเริ่มที่ตัวเองซะเลยวันนี้…
ความเห็น 14
r-taung
เหมือนสารพิษ ทางการเกษตร 3ตัวไทยเรายังเเบนไม่สำเร็จเลย
อำนาจมันสำคัญกว่าชีวิตชาวบ้าน
01 ก.พ. 2563 เวลา 22.14 น.
ในหนังเรื่องนี้ก็คงจะเป็นการสื่อให้รู้ถึงในเรื่องของผลประโยชน์ที่มากจนทำให้หลงลืมในเรื่องของผลกระทบต่างๆที่จะเกิดขึ้นตามมาในภายภาคหน้าอย่างนั้นหรือปล่าว.
01 ก.พ. 2563 เวลา 11.51 น.
So
cinema ซีนนี้มา ชอบชื่อคอลัมภ์ เข้าใจตั้ง ช่างคิดดี
01 ก.พ. 2563 เวลา 11.04 น.
Kathy 🕉️
หนังเรื่องนี้ถ้าสายหนังดราม่าน่าจะถูกใจเลย สำหรับเราเองก็ชอบมาก หนังดำเนินเรื่องด้วยบทสนทนาแต่ไม่น่าเบื่อเลยน่าติดตามตั้งต่ต้นจนจบ นักแสดงนำชาพี่มาร์คเล่นดีมากเอาอยูากับบทนี้ อยากให้หนังมีคนไปดูเยอะๆ ตอนจบคือสะพรึง
01 ก.พ. 2563 เวลา 16.36 น.
Tuppui_Furry🦊
สะท้อนสังคมไทยชัดดี....ความเน่าของเบื้แงลึกภายในภายนอกดูดี เมื่อไหร่จะมีคนในนั้นออกมาบ้างนะ....
01 ก.พ. 2563 เวลา 08.09 น.
ดูทั้งหมด