โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

กทม.ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด กว่า 60 วัน แต่ยังวางใจไม่ได้

สยามรัฐ

อัพเดต 21 ก.ค. 2563 เวลา 13.45 น. • เผยแพร่ 21 ก.ค. 2563 เวลา 13.45 น. • สยามรัฐออนไลน์
กทม.ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด กว่า 60 วัน แต่ยังวางใจไม่ได้

ด้วยสถานการณ์ระบาดทั่วโลกยังรุนแรง อาจมีหลุดรอดเข้าไทยได้โดยเฉพาะลักลอบเข้าเมือง กำชับตรวจตราสถานประกอบการเข้มข้นมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเคร่งครัด ต้องใช้แอพฯไทยชนะ ส่วนกรณีลูกอุปทูต มีกลุ่มเสี่ยง 380 คน ตรวจไม่พบติดเชื้อทั้งหมด รวมทั้งผู้ที่มีประวัติไปพื้นที่เสี่ยงที่ระบาด 25 ราย ทั้งหมดไม่พบเชื้อเช่นกัน

เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 63 พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าฯกทม. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร (ศบค.กทม.) เป็นประธานการประชุม ศบค.กทม. ครั้งที่ 68/2563 ซึ่งที่ประชุมได้หารือถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 แม้ในกทม. และในประเทศไทยไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในประเทศ โดยกทม.เป็นระยะเวลากว่า 60 วันแล้วก็ตาม แต่สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ของโลกยังคงรุนแรง พบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากถึงวันละกว่า 2 แสนราย และอาจทำให้มีการหลุดรอดเข้ามาในประเทศไทยได้ โดยเฉพาะจากการเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายที่ไม่ผ่านการตรวจคัดกรองก่อนเข้าประเทศ จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประชาชนให้ความร่วมมือป้องกันการแพร่ระบาดในประเทศอย่างเคร่งครัดต่อไป

นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้คณะทำงานด้านการประสานงานการดูแลความสงบเรียบร้อย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักเทศกิจ สำนักงานเขต กองบัญชาการตำรวจนครบาล เป็นต้น ตรวจแนะนำสถานประกอบการ สถานบริการอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ หรือสถานประกอบการที่คล้ายคลึงกัน โดยให้เพิ่มจำนวนสถานที่และความถี่ในการตรวจแนะนำ และกำชับให้สถานบริการปฏิบัติตามข้อกำหนด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด–19 ตามมาตรการป้องกันโรค ทั้ง 19 ข้อ อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการจำกัดจำนวนผู้เข้าใช้บริการให้เหมาะสมกับพื้นที่สถานบริการ การเว้นระยะห่างกันของผู้ใช้บริการ และการกำชับให้ผู้ใช้บริการใช้แอปพลิเคชั่นหรือแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” หรือให้มีการลงทะเบียนก่อนเข้าและออกจากสถานที่ทุกคน

สำหรับการพบผู้ป่วยโควิด-19 กรณีบุตรอุปทูตซูดานนั้น จากการสอบสวนโรคพบว่า มีผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย จำนวนทั้งสิ้น 380 ราย แยกเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง 7 คน ผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงต่ำ 27 คน และผู้สัมผัสอื่นๆ ซึ่งเป็นผู้ที่พักอาศัยในคอนโดเดียวกับผู้ผู้ป่วย 346 คน ผลการเก็บตัวอย่างส่งตรวจวิเคราะห์เชื้อ ปรากฏว่าไม่พบผู้ติดเชื้อ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง กักกันตนเองที่บ้านพักสถานทูต 14 วัน ผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงต่ำ เฉพาะผู้ที่ใช้ลิฟต์ตัวเดียวกับคณะผู้ป่วยให้กักกันที่บ้านพักจนครบ 14 วัน ส่วนคนอื่นให้เฝ้าระวังสังเกตอาการ 14 วัน

ในส่วนของประชาชนชาวกรุงเทพฯ หรือผู้พักอาศัยในกรุงเทพฯ ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงในจังหวัดระยอง ได้แก่ ผู้ที่มีประวัติเข้าพักที่โรงแรม ดีวารี ดีว่า ระยอง เมื่อวันที่ 8 – 11 ก.ค.63 หรือไปใช้บริการศูนย์การค้าแพชชั่น ช็อปปิ้ง เดสติเนชั่น (ห้างฯ แหลมทอง )เมื่อวันที่ 10 ก.ค.63 เวลา 11.00 – 15.00 น. นั้น ได้ประสานมายังกรุงเทพมหานคร เพื่อเข้ารับการตรวจคัดกรอง ทั้งสิ้น 58 ราย ซึ่งเป็นผู้เข้าเกณฑ์ต้องเก็บตัวอย่างส่งตรวจวิเคราะห์เชื้อ จำนวน 25 ราย ผลการตรวจวิเคราะห์ไม่พบเชื้อทั้ง 25 ราย จึงขอให้ประชาชนสบายใจไม่ตื่นตระหนก แต่ขอให้ระมัดระวังดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล อาทิ สวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะห่างระหว่างบุคคล หมั่นล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น ตลอดจนขอให้ประชาชนปฏิบัติตามข้อกำหนดของมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการรวมถึงกรุงเทพมหานครกำหนดอย่างเคร่งครัดรัดกุมต่อไป

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0