โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

อว.เผยจังหวัดของไทยที่ฉีดวัคซีนมากที่สุด คือ ภูเก็ต ขณะที่ทั่วโลกฉีดไปแล้ว 2,597 ล้านโดส

สวพ.FM91

อัพเดต 21 มิ.ย. 2564 เวลา 15.08 น. • เผยแพร่ 21 มิ.ย. 2564 เวลา 15.00 น.
อว.เผยจังหวัดของไทยที่ฉีดวัคซีนมากที่สุด คือ ภูเก็ต  ขณะที่ทั่วโลกฉีดไปแล้ว 2,597 ล้านโดส

อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 20 มิถุนายน ฉีดวัคซีนแล้ว 7,587,178 โดส และทั่วโลกแล้ว 2,597 ล้านโดส ใน 201 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 73.804 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ จังหวัดภูเก็ต โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 63.22%"
(20 มิถุนายน 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 2,597 ล้านโดส ใน 201 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 38.5 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อพิจารณารายประเทศพบว่าอิสราเอลได้ฉีดวัคซีนครอบคลุมเกินครึ่งของประชากรแล้ว ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 317 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 149 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 73.804 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (45.9% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 35.283 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 20 มิถุนายน 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 7,587,178 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 45.2%
ในการฉีดวัคซีน จำนวน 2,597 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 20 มิถุนายน 2564
จัดสรรวัคซีนแล้วทั้งหมด 8,500,000 โดส
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 7,587,178 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 5,486,092 โดส (8.3% ของประชากร)
-เข็มสอง 2,101,086 โดส (3.2% ของประชากร) 
2. จำนวนวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.-20 มิ.ย. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 7,587,178 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 194,465 โดส/วัน ประกอบด้วย
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 2,145,310 โดส
- เข็มที่ 2 49,022 โดส
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 3,340,782 โดส
- เข็มที่ 2 2,052,064 โดส
3. รายงานผู้มีอาการข้างเคียงภายหลังได้รับการฉีดวัคซีน
- 92.29% ไม่มีผลข้างเคียง
- 7.71% มีผลข้างเคียงไม่รุนแรง ประกอบด้วย
- ปวดกล้ามเนื้อ 1.85%
- ปวดศีรษะ 1.38%
- ปวด บวม แดง ร้อน บริเวณที่ฉีด 0.99%
- เหนื่อย อ่อนเพลีย ไม่มีแรง 0.01%
- ไข้ 0.60%
- คลื่นไส้ 0.41%
- ท้องเสีย 0.27%
- ผื่น 0.22%
- ปวดกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้ออ่อนแรง 0.18%
- อาเจียน 0.11%
- อื่น ๆ 0.79%
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 103.2% เข็มที่2 90.4%
- อสม เข็มที่1 25.4% เข็มที่2 13.2%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 7.7% เข็มที่2 0.4%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 9.5% เข็มที่1 2.0%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 28.9% เข็มที่2 16.3%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 8.7% เข็มที่2 3%
รวม เข็มที่1 11% เข็มที่2 4.2%
5. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล
กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่1 16.65% เข็มที่2 5.6% ประกอบด้วย
- กรุงเทพฯ เข็มที่1 22.19% เข็มที่2 6.91%
- สมุทรสาคร เข็มที่1 16.16% เข็มที่2 11.62%
- นนทบุรี เข็มที่1 14.19% เข็มที่2 5.33%
- สมุทรปราการ เข็มที่1 11.49% เข็มที่2 2.75%
- ปทุมธานี เข็มที่1 7.51% เข็มที่2 2.35%
- นครปฐม เข็มที่1 3.99% เข็มที่2 1.23%
จังหวัดอื่นๆ 71 จังหวัด เข็มที่1 4.54% เข็มที่2 1.8%
- ภูเก็ต เข็มที่1 63.22% เข็มที่2 38.29%
- ระนอง เข็มที่1 18.77% เข็มที่2 6.37%
- สุราษฎร์ธานี เข็มที่1 9.60% เข็มที่2 3.50%
- เกาะสมุย เข็มที่1 45.99% เข็มที่2 21.65%
- เกาะเต่า เข็มที่1 17.62% เข็มที่2 6.02%
- เกาะพะงัน เข็มที่1 9.06% เข็มที่2 5.98%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 73,804,311 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 35,283,078 โดส (8.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac และ AstraZeneca
2. ฟิลิปปินส์ จำนวน 8,050,711 โดส (5.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V และ AstraZeneca
3. ไทย จำนวน 7,587,178 โดส (8.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac และ AstraZeneca
4. กัมพูชา จำนวน 6,012,998 โดส (19.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca และ Sinovac
5. มาเลเซีย จำนวน 5,675,002 โดส (12.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. สิงคโปร์ จำนวน 4,691,386 โดส (45.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderna
7. พม่า จำนวน 2,994,900 โดส (N/A* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca
8. เวียดนาม จำนวน 2,233,208 โดส (2.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca
9. ลาว จำนวน 1,208,878 โดส (10.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V
10. บรูไน จำนวน 66,972 โดส (12.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 60.3%
2. อเมริกาเหนือ 16.65%
3. ยุโรป 16.12%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.02%
5. แอฟริกา 1.62%
6. โอเชียเนีย 0.29%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 4 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 990.26 ล้านโดส (35.4% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. สหภาพยุโรป จำนวน 323.37 ล้านโดส (36.4%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 317.12 ล้านโดส (49.5%)
4. อินเดีย จำนวน 276.26 ล้านโดส (10.1%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (67.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
2. มัลดีฟส์ (66.3% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm )
3. บาห์เรน (64.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
4. อิสราเอล (58.8%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
5. สหราชอาณาจักร (55.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna และ Pfizer/BioNTech)
6. ชิลี (54.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
7. มองโกเลีย (53.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และSputnik V )
8. กาตาร์ (51.5%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech)
9. อุรุกวัย (50.0%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinovac)
10. ฮังการี (49.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ข้อมูล : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 0

ยังไม่มีความเห็น