กระทรวงอุตฯ ดันอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ ผุด 4 มาตรการเร่งด่วน ปั้นบุคลากร สร้างต้นแบบผลิตภัณฑ์ สร้างศูนย์ทดสอบมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ หวังผู้ประกอบการยกระดับแตะ 100 ราย มั่นใจเป็นหนึ่งในปัจจัยหนุนฝ่าวิกฤติโควิด-19 ของไทย ให้มีเครื่องมือแพทย์ที่เพียงพอ
วันที่ 1 มิถุนายน 2564 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม โดย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้เร่งขับเคลื่อนกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ให้เติบโตต่อเนื่อง เพื่อสอดคล้องกับแผนการพัฒนาระยะยาว ที่ต้องการยกระดับศักยภาพและมาตรฐานของผลิตภัณฑ์เครื่องมือ และการให้บริการทางการแพทย์ เทียบเท่ากับระดับสากล โดยการสร้างศูนย์ทดสอบมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ส่งเสริมการอำนวยความสะดวกในการตรวจและรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ในราคาที่เป็นธรรมเพื่อให้ผู้ประกอบการไทยสามารถแข่งขันได้มากขึ้น
ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ จากปัจจัยดังกล่าวจึงส่งผลให้ความต้องการเครื่องมือทางการแพทย์มีเพิ่มมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา กระทรวงอุตสาหกรรม จึงเร่งสนับสนุนอุตสาหกรรมเครื่องมือทางการแพทย์ ในการพัฒนาและผลักดัน พร้อมรับมือวิกฤติสุขภาพได้
นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า ดั้งนั้น จึงเร่งดำเนินการปรับแผนและรูปแบบการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง ของงบประมาณประจำปี 2564 เพื่อให้สอดรับนโยบาย และสอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วยการผลักดันให้เกิดความพร้อมในภาคอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ ผ่าน 4 มาตรการเร่งด่วน
1.ส่งเสริมบุคลากรในภาคอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ ให้มีความพร้อมและองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัย การนำเทคโนโลยีไปประยุกต์ใช้ รวมไปถึงสร้างความรู้ความเข้าใจด้านกฎระเบียบ และข้อบังคับของอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์
2.ส่งเสริมด้านการพัฒนาต้นแบบผลิตภัณฑ์ เป็นการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ AI และ IoT รวมถึงในกลุ่มของการบำบัดฟื้นฟู วินิจฉัย และการรักษาโดยต้นแบบผลิตภัณฑ์ 25% ของผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการส่งเสริมนั้น จะครอบคลุมทั้งในด้านของการรองรับกับสถานการณ์การโควิด-19 อาทิ ชุดอุปกรณ์จ่ายอากาศแบบต่อเนื่องสำหรับหน้ากากชนิดครอบเต็มใบหน้า (PAPR) เครื่องทวนสอบเครื่องช่วยหายใจ (Ventilator Tester) ระบบปรึกษาข้อมูลสุขภาพทางไกล ระบบ AI ในการวิเคราะห์โรคปอด และเครื่องดูดละอองฝอยน้ำลาย (เครื่องมือทันตกรรม)
ทั้งนี้ การพัฒนาต้นแบบผลิตภัณฑ์ดำเนินการโดยการบูรณาการร่วมกันระหว่างสถานประกอบการภาคการศึกษา และบุคลากรทางการแพทย์ รวมไปถึงสถาบันฯ และสมาคมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
3.ส่งเสริมสถานประกอบการในภาคอุตสาหกรรมการผลิตและบริการ ปรับปรุงและพัฒนากระบวนการผลิตให้สามารถที่จะลดต้นทุน ลดของเสียที่เกิดขึ้นจากการผลิต รวมถึงสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองต่อการใช้งานในปัจจุบัน และส่งเสริมในเรื่องการวางแผนการตลาด เพิ่มมูลค่า และยอดขายอีกครั้ง
4.ส่งเสริมการรวมกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งและเพิ่มขีดความสามารถของอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ การถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้รวมถึงวิสัยทัศน์ร่วมกัน การสร้างและรวบข้อมูลเครือข่ายหน่วยทดสอบมาตรฐานเครื่องมือแพทย์ ให้เกิดความพร้อม อีกทั้งยังร่วมกันพัฒนาต้นแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สอดคล้องต่อสถานการณ์ปัจจุบัน
นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้ส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการวิจัยและนวัตกรรมแก่ผู้ประกอบการ ผ่านการเชื่อมโยงหน่วยงานอื่นๆ อาทิ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ผู้ประกอบการ นำผลิตภัณฑ์เข้าสู่บัญชีนวัตกรรมไทย และบัญชีสิ่งประดิษฐ์ไทย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางหนึ่งในการสร้างความน่าเชื่อถือและสามารถจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้กับส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจอีกด้วย
โดยตั้งเป้าภายในปี 2564 ต้องสามารถสนับสนุนผู้ประกอบการและบุคลากรในภาคอุตสาหกรรมเครื่องมือการแพทย์ได้กว่า 100 ผู้ประกอบการ และที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2559 – 2563 สามารถยกระดับอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์กว่า 400 ราย อาทิ การพัฒนาชุดอุปกรณ์จ่ายอากาศแบบต่อเนื่องสำหรับหน้ากากชนิดครอบเต็มใบหน้า บริษัท ทีเอ็มดีดี จำกัด โดยทางกรมฯ ได้สนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านวัสดุในการผลิต ระบบในการปรับอัตราการไหลของอากาศ แบตเตอรี่ในการใช้งาน และการใช้งานร่วมกับชุดกรองเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย เป็นต้น
ความเห็น 0