มท.1 สั่งทุกหน่วยงานบูรณการร่วมกัน ปกป้องชีวิต และทรัพย์สิน ของคนไทย - นักท่องเที่ยว ให้ปลอดภัยจากผู้มีอิทธิพล ลั่น ข้าราชการคนไหน ยอมให้ถูกข่มขู่ ก็เป็นข้าราชการไม่ได้ ส่วนต่างชาติเปิดร้านกัญชา ในภูเก็ต ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน
วันนี้ (9 พ.ค. 67) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงปัญหาของนักท่องเที่ยว และผู้มีอิทธิพลทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ว่า เราจะบูรณาการความร่วมมือทุกหน่วยงาน ทำให้เกิดความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สินของประชาชน ทั้งใน จ.ภูเก็ต และนักท่องเที่ยวทุกคน ในช่วงหลังที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวขยายตัว แต่ไม่ได้หมายความว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจ จะทำผิดกฎหมายได้
ดังนั้น การที่มีคนต่างชาติมาเอาเปรียบการหากินของคนไทย รัฐบาลยอมไม่ได้ นโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพล บ่อนการพนัน และสถานบันเทิงมีมากขึ้น เราต้องจัดระเบียบให้เรียบร้อย ตนได้มอบหมายให้นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ใช้เวลาในพื้นที่ดูแลทั้งใน จ.ภูเก็ต และจังหวัดใกล้เคียงที่มีปัญหาคล้ายกัน เร่งดำเนินการร่วมกับผู้ว่าฯจังหวัด จดระเบียบใช้กฎหมายป้องกันปราบปรามผู้กระทำผิด
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ตนหวังว่าสถานการณ์ความปลอดภัยในในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนทุกคนจะดีขึ้น หากใครเอาของหลวงไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว หรือใครที่รุกล้ำ เอารัดเอาเปรียบที่ดินชาวบ้านที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ต้องถูกดำเนินคดี ที่ดินที่ไม่ถูกต้องจะต้องริบกลับมาเป็นของหลวง ทุกเรื่องจะต้องทำให้เกิดความปลอดภัย และความมั่นคงต่อชีวิต และทรัพย์สิน
เมื่อถามว่าเรื่องปัญหาการบุกรุกที่ดินมีการข่มขู่ข้าราชการนั้น นายอนุทิน บอกว่าให้ฟังเสียงหัวเราะ พร้อมระบุต่อว่า ข้าราชการคนไหนยอมให้ถูกข่มขู่ ก็เป็นข้าราชการไม่ได้ เราถือกฎหมาย เป็นเจ้าพนักงาน ตนลงพื้นที่มาดูผลงาน และความสำเร็จ พร้อมรับฟังถ้ามีปัญหาหากมีอะไรที่ต้องการให้รัฐบาลสนับสนุน ซึ่งเรามีความพร้อม
ส่วนกรณีที่มีชาวต่างชาติเปิดร้านกัญชาใน จ.ภูเก็ต เป็นจำนวนมาก นายอนุทิน ยืนยันว่า ก็ต้องถูกจับ คนที่เปิดร้านกัญชาได้ต้องอยู่ภายใต้ระเบียบของกระทรวงสาธารณสุข จะมาสูบ ให้คนรอบข้างรำคาญหรือจะสูบที่ข้างถนนไม่ได้ สูบในสถานที่ราชการ ไม่ได้เว้นวรรคทุกอย่างมีกฎระเบียบอยู่แล้ว หากทุกคนทำตามกฎระเบียบก็จะไม่มีปัญหาอะไร