ดร.ทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ให้สัมภาษณ์เนื่องในโอกาสที่ กปภ. ครบรอบ 42 ปีว่า กปภ. ได้จัดทำแผนการลงทุนในการจัดหาน้ำสะอาดเพื่อการอุปโภค-บริโภค และให้บริการแก่ประชาชน สอดคล้องและเป็นไปตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี โดยได้จัดทำแผนงานเพิ่มกำลังการผลิตระบบประปาเพื่อรองรับการให้บริการน้ำประปา ทั้งในพื้นที่เมืองหลัก พื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ รวมถึงการขยายพื้นที่การให้บริการ และการเพิ่มประสิทธิภาพระบบประปาหมู่บ้านเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีน้ำประปาสะอาดและได้มาตรฐาน
“แผนงานสำคัญๆ ได้แก่ โครงการก่อสร้างปรับปรุงขยาย กปภ. สาขานครนายก อ.เมือง - ปากพลี จ.นครนายก ระยะเวลาดำเนินการปี 2563-2565 ก่อสร้างระบบผลิตน้ำเพิ่ม 24,000 ลบ.ม./วัน รองรับผู้ใช้น้ำได้เพิ่มขึ้นประมาณ 11,500 ราย โครงการก่อสร้างปรับปรุงขยาย กปภ. สาขาสุไหงโก-ลก - ตากใบ (เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนราธิวาส) อ.สุไหงโก-ลก - แว้ง - ตากใบ จ.นราธิวาส ระยะเวลาดำเนินการปี 2563-2565 ก่อสร้างระบบผลิตน้ำเพิ่ม 14,400 ลบ.ม./วัน รองรับผู้ใช้น้ำได้เพิ่มขึ้นประมาณ 9,620 ราย โครงการก่อสร้างปรับปรุงขยาย กปภ. สาขาบ้านฉาง (รองรับ EEC) อ.บ้านฉาง - อ.เมือง - นิคมพัฒนา - ปลวกแดง จ.ระยอง ระยะเวลาดำเนินการปี 2563-2565 ก่อสร้างระบบผลิตน้ำเพิ่ม 48,000 ลบ.ม./วัน รองรับผู้ใช้น้ำได้เพิ่มขึ้นประมาณ 32,500 ราย นอกจากนี้ ยังมีแผนงานพัฒนา ขยายเขต และเพิ่มประสิทธิภาพระบบประปาหมู่บ้านในพื้นที่ กปภ. สาขาสิงห์บุรี และพื้นที่ของ กปภ. สาขาเลย เป็นต้น”
ดร.ทรงศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า กปภ. ได้กำหนดแผนระยะยาว (ปี 2566-2577) ประกอบด้วย แผนงานบริหารจัดการความต่อเนื่องโครงการขยายเขตพื้นที่ ให้บริการ เพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และลดปัญหาการให้บริการที่ไม่มีประสิทธิภาพและการหยุดชะงัก แผนงานพัฒนาระบบประปาและขยายเขตบริการต่อเนื่อง แผนงานพัฒนาฐานข้อมูลและเทคโนโลยีดิจิทัลในการบริหารจัดการ Demand-Side/Supply-Side ในรูปแบบคลัสเตอร์ เพื่อพัฒนาฐานข้อมูลและเทคโนโลยีดิจิทัลในการบริหารจัดการ นำมาสนับสนุนการรายงานผล และความสามารถในการผลิตและจำหน่ายน้ำประปา ตลอดจนความต้องการของประชาชนในแต่ละพื้นที่ รวมถึงความคืบหน้าของโครงการขยายเขตการให้บริการ และแผนงานจัดหาที่ดินและก่อสร้างสระเก็บน้ำดิบ ก่อสร้าง พัฒนา ปรับปรุงแหล่งน้ำ และเชื่อมพื้นที่จ่ายน้ำ
ด้าน นายกฤษฎา ศังขมณี รักษาการแทนผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค ได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงกรณีการแพร่ระบาดของโควิด-19 กับมาตรการ การช่วยเหลือประชาชนผู้ใช้น้ำว่า ในช่วงการแพร่ระบาดระลอกแรก กปภ. ได้ออกมาตรการช่วยเหลือเพื่อลดค่าใช้จ่ายของประชาชน 5 มาตรการ เช่น ลดค่าน้ำประปา ร้อยละ 20 ให้แก่ผู้ใช้น้ำทุกราย และลดให้หน่วยงานรัฐ ร้อยละ 3 เป็นเวลา 3 เดือน ขยายระยะเวลาการชำระค่าน้ำประปา การคืนเงินประกันฯ ให้ ผู้ใช้น้ำประเภทที่พักอาศัย การยกเว้นค่าธรรมเนียมชำระค่าน้ำประปา โดยมาตรการเหล่านี้สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชนได้กว่า 3,551 ล้านบาท ส่วนการแพร่ระบาดระลอกใหม่นี้ กปภ. ก็ได้ออกมาตรการขยายเวลาชำระค่าน้ำประปา จาก 10 วันเป็น 20 วัน ตั้งแต่ ม.ค.-มี.ค. 64 และลดค่าน้ำประปา ร้อยละ 10 เฉพาะที่อยู่อาศัยและกิจการขนาดเล็ก ตั้งแต่ ก.พ.-มี.ค. 64 ซึ่งสามารถบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน 4.55 ล้านราย และลดค่าครองชีพได้ กว่า 257 ล้านบาท
“ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 กปภ. ยังคงเน้นการผลิตน้ำประปาให้มีคุณภาพมาตรฐานอยู่เสมอ ทั้งนี้ ผลการวิเคราะห์และประมวลผลเชื้อโควิด-19 ในน้ำดื่มและน้ำประปาจากศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ การวิจัยและพัฒนา ศบค. สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สรุปว่า ระบบการผลิตน้ำประปาสามารถฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้ และไม่พบเชื้อชนิดนี้ทั้งในน้ำดิบและน้ำดื่ม จึงขอให้ประชาชนผู้ใช้น้ำประปามีความมั่นใจในคุณภาพและมาตรฐานน้ำประปาของ กปภ. และเพื่อเป็นการเว้นระยะห่างเพื่อป้องกันโควิด-19 จึงขอเชิญชวนผู้ใช้บริการของ กปภ. ใช้บริการผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของ กปภ. ได้แก่แอปพลิเคชัน PWA 1662, Line Official @pwathailand และเว็บไซต์ www.pwa.co.th”
ความเห็น 0