โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เสธ.ทบ. เน้นย้ำ กอ.รมน.สกัดกั้นโควิด พร้อมเพิ่มระวังช่องทางแนวชายแดน

ไทยรัฐออนไลน์ - Politics

อัพเดต 25 มี.ค. 2564 เวลา 10.42 น. • เผยแพร่ 25 มี.ค. 2564 เวลา 10.45 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

เลขาฯ กอ.รมน. กำชับ กอ.รมน.จังหวัด สกัดกั้นการแพร่ระบาดโควิด-19 จากสถานการณ์ความไม่สงบเพื่อนบ้าน พร้อมให้เพิ่มการเฝ้าระวังตามแนวชายแดนทั้งจุดผ่อนปรนและช่องทางธรรมชาติ ทั้งเน้นย้ำการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” บูรณาการขับเคลื่อนการยกระดับความเข้มแข็งของชุมชน และหากพบบุคคลใดแอบอ้างนำหน่วยไปกระทำไม่ถูกต้องให้แจ้ง 1374 ได้ตลอดเวลา

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 25 มี.ค.64 พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษก กอ.รมน. กล่าวว่า การประชุมหน่วยขึ้นตรง กอ.รมน. ครั้งที่ 3/2564 โดยมี พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ เลขาฯ กอ.รมน. เป็นประธานการประชุมฯ โดยมีวาระสำคัญ การพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นความมั่นคงถือเป็นกรอบแนวทางการดำเนินการหลักจะนำไปสู่จุดหมายปลายทางในภาพรวม ที่เป็นรูปธรรมชัดเจนในระยะ 20 ปี ซึ่ง “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข”โดยมีเป้าหมายให้ประชาชนอยู่ดีกินดีและมีความสุข ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 1 ได้ทำบันทึกข้อตกลงร่วมกับสำนักงานวิจัยแห่งชาติ (วช.) ดำเนินโครงการเสริมสร้างความก้าวหน้ากลุ่มมวลชน เพื่อยกระดับศักยภาพความเข้มแข็งของชุมชนด้วยวิจัยและนวัตกรรม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมส่งเสริมและสนับสนุนงานวิจัยและนวัตกรรม เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของรัฐ ขยายผลองค์ความรู้จากผลงานวิจัยและนวัตกรรม ไปสู่การใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติ และการถ่ายทอดสู่ศูนย์เรียนรู้ รวมทั้งเพื่อสานต่อตามแนวพระราชดำริ ในการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและศาสตร์พระราชา เป็นแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนสืบไป

ปัจจุบัน ศปป.1 และสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้จัดทำโครงการสร้างความเข้มแข็งของชุมชนเพื่อความยั่งยืน และร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) ดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ "โคก หนอง นา โมเดล" เพื่อบูรณาการขับเคลื่อนการยกระดับความเข้มแข็งของชุมชน ด้วยงานวิจัยและนวัตกรรม ของ วช. ใน 15 พื้นที่เป้าหมาย เพื่อติดตามความคืบหน้า ให้สามารถพัฒนาศักยภาพเชิงพื้นที่ชุมชน พึ่งพาตนเองต้นแบบ และเป็นความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริง
โฆษก กอ.รมน. กล่าวด้วยว่า ส่วนมุ่งมั่นพัฒนาเว็บไซต์ให้มีความทันสมัย เพื่อการสื่อสารข้อมูลให้ถึงประชาชนอย่างรอบด้าน กอ.รมน. ได้ปรับปรุงพัฒนาเว็บไซต์เป็นเวอร์ชั่นใหม่ ให้มีความทันสมัย เน้นการนำเสนอข้อมูลในรูปแบบ ที่ให้ประชาชนเข้าถึงง่าย ตอบสนองการนำเสนอข้อมูลในหลายๆ อุปกรณ์ เพื่อการสื่อสารข้อมูลไปถึงประชาชนอย่างรอบด้าน สามารถแสดงข้อมูลข่าวสารในรูปแบบต่างๆ แสดงผลบนแผนที่ประเทศไทย และแสดงผลที่ประชาชนทั่วไป สามารถรับรู้ข่าวสารได้ทั้งประเทศ อีกทั้งมีการแยกนำเสนอข่าวสารในระดับ กอ.รมน.ภาค ซึ่งเป็นฐานข้อมูล Open Data และรองรับการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส ในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA 2564) รวมทั้ง เป็นไปตามมาตรฐาน เวิลด์ ไวด์ เว็บ (World Wide Web Consortium : W3C) ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่ให้คนพิการทุกกลุ่ม รวมทั้งคนปกติที่อยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถใช้งานเว็บไซต์ได้ปกติ สามารถเข้าถึงเนื้อหาเว็บไซต์ และใช้ประโยชน์ www.isoc.go.th

ขณะที่ พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ ประธานการประชุมฯ ได้เน้นย้ำเรื่อง การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ตามแนวชายแดน จากสถานการณ์ความไม่สงบของประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลกระทบในเรื่องดังกล่าว จึงได้เน้นย้ำให้ กอ.รมน.ภาค และ กอ.รมน.จว. ให้เฝ้าระวังการลักลอบเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย ทั้งจุดผ่อนปรนและช่องทางธรรมชาติ โดยเพิ่มการเฝ้าระวังให้มีการเข้มงวดมากขึ้นเพื่อเป็นการป้องกันการนำเชื้อโควิด-19 เข้ามาแพร่ระบาดในประเทศ อีกทั้งมีความห่วงใยเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่ได้ปฏิบัติงานตามแนวชายแดน ให้มีการระวังป้องกันตนเองอยู่ตลอดเวลา ตามมาตรการป้องกันที่กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศแจ้งเตือนไว้

พล.อ.วรเกียรติ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมามีกลุ่มบุคคลได้แอบอ้าง โดยนำตราสัญลักษณ์ของ กอ.รมน. ไปเรียกรับผลประโยชน์ และนำตราสัญลักษณ์ดังกล่าวไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง จึงขอเน้นย้ำให้ กอ.รมน.ส่วนกลาง, กอ.รมน.ภาค และกอ.รมน.จว. ได้ดำเนินการตรวจตราและเฝ้าระวัง พร้อมทั้งใช้เครือข่ายมวลชนของ กอ.รมน. ที่ถูกจัดตั้งอย่างถูกต้อง ช่วยกันเป็นหูเป็นตา และรณรงค์ขอความร่วมมือกับทุกภาคส่วนและประชาชนทุกคน ช่วยกันสอดส่องดูแล หากพบเห็นกลุ่มบุคคลใดๆ ที่มีการแอบอ้างนำหน่วยงานของ กอ.รมน. ไปกระทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในพื้นที่ หรือแจ้งมาที่หมายเลข 1374 เพื่อจะได้ดำเนินคดีเอาผิดตามกฎหมาย ทำให้ประชาชนไม่ตกเป็นเหยื่อ ของกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าว.

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 0

ยังไม่มีความเห็น