โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

กยท.ร่วมฝ่าวิกฤติโควิด นำอุตสาหกรรมใหม่ ด้านสุขภาพและผู้สูงอายุ

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

อัพเดต 29 มี.ค. 2564 เวลา 03.19 น. • เผยแพร่ 29 มี.ค. 2564 เวลา 03.21 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

กยท.ร่วมฝ่าวิกฤติโควิด-19 วางเป้า ผลักดันงานวิจัย นำอุตสาหกรรมใหม่ โดยเฉพาะด้านสุขภาพและผู้สูงอายุ เพื่อให้เกิดอุตสาหกรรมสตาร์ทอัพมากขึ้น

เมื่อวันที่ 29 มี.ค.64 นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กล่าวว่า ถึงแนวทางการส่งเสริมการวิจัยอุตสาหกรรมยางพาราในประเทศไทย เพื่อให้เกิดนวัตกรรมใหม่ของยางพาราในรูปแบบอื่น ว่า ตนให้ความสำคัญกับงานวิจัยเพื่อพัฒนา และสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ จากยางพารา ในอุตสาหกรรมที่หลากหลายมากขึ้น เช่น อุตสาหกรรมด้านพลังงาน ด้านสุขภาพ หรือ การแพทย์ ทั้งนี้ผลงานวิจัยต้องสามารถนำไปใช้ได้จริง จะได้เกิดอุตสาหกรรมใหม่และเกิดสตาร์ทอัพสร้างธุรกิจให้คนรุ่นใหม่

ผู้ว่าการยาง กล่าวต่อว่า ขณะนี้หน่วยวิจัยในด้านต่างๆ มีมาก อาจจะต้องมาหารือเพื่อร่วมกันทำงานวิจัยให้เป็นระบบ เช่น งานวิจัยเกี่ยวกับยางพารา และแปรรูปยางพารา เพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิตยางพารา จนมีผลิตภัณฑ์ที่ออกมาในเชิงพาณิชย์ และสามารถนำมาใช้งานในอุตสาหกรรมจำนวนหนึ่ง เช่น แบริเออร์หุ้มยาง ลดอุบัติเหตุทางจราจร หรือ โครงการวิจัย “หุ่นจำลองยางพาราสำหรับตรวจสอบความถูกต้องปริมาณรังสีจากการรักษาโรคมะเร็งด้วยเทคนิคการรักษาสามมิติ” ของ มหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งถ้าเรามาช่วยกันวิจัยน่าจะเกิดผลดีมากขึ้น ล่าสุดได้คุยกับสถาบันวิจัยแห่งชาติ และร่วมกันทำเอ็มโอยู เพื่อกำหนดทิศทางการวิจัย

นายณกรณ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของ กยท. ได้ร่วมกับหน่วยงานวิจัยอื่น เพื่อวิจัยผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น สารช่วยให้น้ำยางจับตัว ช่วยลดปัญหาเรื่องกลิ่น การลดปริมาณโปรตีนในถุงมือยาง เพื่อขยายโอกาสเปิดตลาดของอุตสาหกรรมถุงมือยางธรรมชาติของไทย และผลิตภัณฑ์ยางรูปแบบใหม่เพื่อการเรียนรู้

"จากปัญหาการระบาดของโควิด-19 ทำให้กระแสเรื่องสุขภาพยังเหมือนเดิมปีนี้ เพราะโควิด-19 ยังอยู่ ความต้องการใช้ถุงมือยางและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้วัตถุดิบยางพารา จึงยังมีความต้องการสูง อีกทั้งอนาคตเราจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เพิ่มมากขึ้น ฉะนั้น กยท.เล็งเห็นว่าจะต้องมีสินค้าที่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุ โดยนำผลิตภัณฑ์จากยางพาราไปผลิต ซึ่งตอนนี้ก็มีสินค้าอยู่แล้ว เช่น พื้นยางปูพื้นห้องสำหรับผู้สูงอายุ ส่วนในห้องน้ำก็มีผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากยางพารา เช่น ฝาชักโครก, อ่างล้างหน้า พื้นยางปูกันลื่นในห้องน้ำ เป็นต้น ทำให้ยางพาราเริ่มเข้าไปในอุตสาหกรรมพวกนี้สูงตามลำดับ ดังนั้นงานวิจัยจะเข้าไปเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมเหล่านี้ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ขณะเดียวกัน ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับด้านพลังงาน นายณกรณ์ กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยางพาราก็ถูกนำไปใช้มากขึ้นเช่นกัน อาทิ ฉนวนกันไฟฟ้า ซึ่ง ปีนี้ กยท. ได้ทำเอ็มโอยูกับการไฟฟ้า ในการนำยางพาราไปใช้ ทิศทางของเกษตรกรต้องมีการปรับตัวช่วยเหลือตัวเองปรับรูปแบบให้เป็นสตาร์ทอัพมากขึ้น โดยเราจะมีเรื่องเงินทุนช่วยเหลือ VC เข้าไปช่วยสนับสนุนมากขึ้น และ กยท. ยุคใหม่ต้องเป็นธุรกิจเงินร่วมลงทุน หรือ Venture Capital (VC) ไปสนับสนุนอุตสาหกรรมใหม่ และเกิดสตาร์ทอัพ งานวิจัยจะเข้ามาตอบโจทย์ผู้ประกอบการมากขึ้น.

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 0

ยังไม่มีความเห็น