เซอร์ไพรส์! "ทรัมป์" ใส่หน้ากากอนามัยครั้งแรกออกสื่อ

วันนี้ (13 ก.ค.2563) เว็บไซต์ www.worldometers รายงานสถานการณ์โรค COVID-19 ว่า ทั่วโลกพบมีผู้ป่วยโรค COVID-19 แล้ว 12,833,318 คน เสียชีวิต 567,649 ราย รักษาหายแล้ว 7,473,194 คน โดยสหรัฐอเมริกา เป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อ และเสียชีวิตมากที่สุดในโลก 

ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เดินทางมายังโรงพยาบาลทหารในรัฐแมรีแลนด์ เพื่อเยี่ยมทหาร และบุคลากรด้านสาธารณสุข โดยครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้นำสหรัฐอเมริกาใส่หน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 ขึ้นในประเทศ

การใส่หน้ากากอนามัยมาโรงพยาบาลเป็นสิ่งที่ดี นอกจากนี้ยังย้ำว่าไม่เคยมีจุดยืนต่อต้านการใส่หน้ากากอนามัย

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ถูกจับตามองจากสื่อหลายสำนัก เนื่องจากผู้นำสหรัฐอเมริกาปฏิเสธที่จะใส่หน้ากากอนามัยในที่สาธารณะมาโดยตลอด แม้ว่าศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐอเมริกาจะแนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันโรค ตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา

ขณะที่ดาราดังแห่งวงการภาพยนตร์บอลลีวู้ดอินเดีย “อมิตาภ พัจจัน” วัย 77 ปี เผยทางทวิตเตอร์ต่อกลุ่มผู้ติดตาม เมื่อวันที่ 11 ก.ค.ว่า แพทย์ตรวจพบว่าติดเชื้อ COVID-19 และตอนนี้ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนในเมืองมุมไบ โดยเจ้าหน้าที่ทำการตรวจหาเชื้อสมาชิกในครอบครัว และกลุ่มคนใกล้ชิดในการทำงาน แต่ยังไม่ทราบผล ก่อนหน้านี้ลูกชายของเขาวัย 44 ปี ถูกตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 ก่อนหน้านี้แล้ว และลูกชายถูกนำตัวเข้ารับการรักษา ที่โรงพยาบาลเดียวกันกับเขา

ภาพ: ศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์

"สหรัฐอเมริกา" ยังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มวันละกว่า 71,000 คน

ขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) รายงานผลการวิเคราะห์สถานการณ์ COVID-19 ทั่วโลกว่า ยังมีการระบาดเพิ่มขึ้นอย่างกว้างขวาง โดยในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตสูงที่สุดในโลก โดยมีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 3,350,000 คน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 137,000 คนซึ่งคิดเป็นหนึ่งในสี่ของจำนวนรวมทั่วโลก

การระบาดของโรค COVID-19 ในประเทศสหรัฐเมริกา ช่วงแรกในเดือนมี.ค.-เม.ย.มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่นิวยอร์ก ซึ่งต่อมาสามารถควบคุมได้ จำนวนผู้ติดเชื้อในภาพรวมค่อยๆลดลงในช่วงกลางเดือนเม.ย.-พ.ค.ที่ผ่านมา รัฐต่างๆได้มีมาตรการผ่อนคลายหรือเปิดเมืองให้มีกิจกรรมและกิจการต่างๆกลับมาดำเนินการได้ตั้งแต่ในเดือน พ.ค.

ภาพ: ศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์

พบ 37 รัฐติดเชื้อเพิ่ม

ต่อมาตั้งแต่กลางเดือนมิ.ย.นี้ จำนวนผู้ป่วยในเกือบทุกพื้นที่ของประเทศได้เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง สร้างสถิติจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นเกือบทุกวัน และยังไม่มีแนวโน้มว่าจะลดลงในเวลาอ้นใกล้นี้ โดยในวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ทำสถิติใหม่มีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น 71,787 คน และหลายรัฐมีจำนวนผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเกือบเต็มจำนวนเตียงที่มีอยู่แล้ว

ในสัปดาห์นี้ มีเพียง 3 รัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ต่อวันลดลง และเพียง 10 รัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ทรงตัวใกล้เคียงกับเดิม ในขณะที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นใน 37 รัฐรวมทั้งกรุงวอชิงตันดีซี โดยรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ต่อวันมากที่สุดในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ฟลอริดา แคลิฟอร์เนีย เท็กซัส แอริโซนา จอร์เจีย นอร์ทแคโรไลนา ลุยเซียนา เซาท์แคโรไลนา เทนเนสซี อลาบามา โอไฮโอ และอิลลินอยส์

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ต.ค.นี้ไทยเตรียมทดสอบวัคซีน COVID-19 เข็มแรกในคน